เทศกาลสารทจีน หรือ วันสารทจีน (Ghost Festival or Sart Chin Day) หรือชื่อทางการว่า จงหยวนเจี๋ย เป็นอีกวันสำคัญของชาวจีนและคนไทยเชื้อสายจีน เพราะเป็นวันที่ทุกครอบครัวทำพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญู ด้วยพิธีเซ่นไหว้อาหารคาว-หวานต่างๆ โดยวันสารทจีนตรงกับเดือน 7 ตามปีปฏิทินทางจันทรคติของจีน ซึ่งจะช้ากว่าปีปฏิทินจันทรคติของไทยประมาณ 2 เดือน และวันสารทจีน 2565 ในไทยจะตรงกับวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม นอกจากนี้ยังเป็นเดือนที่ประตูนรกเปิดให้วิญญาณทั้งหลายมารับกุศลผลบุญในโลกมนุษย์ได้ จึงมักมีการเซ่นไหว้สัมภเวสีและผีไร้ญาติเพื่อให้ทานอีกด้วย
วันสารทจีนต่างจากวันตรุษจีนอย่างไร

เทศกาลสารทจีนสำคัญต่อชาวจีนเป็นอันดับสองรองจากวันตรุษจีน และอาจมีหลายคนยังสับสนระหว่าง วันตรุษจีน กับ วันสารทจีน คือวันที่ต่างกันยังไง
วันตรุษจีน คือ วันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนและผู้มีเชิ้อสายจีน และการซื้อของไหว้ รวมไปถึงการตั้งโต๊ะไหว้ในวันตรุษจีน จะเน้นไหว้เทพเจ้าเป็นหลัก เครื่องไหว้เจ้าจะเน้นเป็นอาหารมงคล อาหารเจ ผลไม้ เช่น เต้าหู้ วุ้นเส้น ผัก ผลไม้มงคล ข้าวสวย น้ำชา เป็นต้น และอาจมีการไหว้บรรพบุรุษ และให้ทานสัมภเวสีด้วย โดยของไหว้กลุ่มหลังนี้จะเป็นอาหารคาวหวานที่มีความหมายมงคล
วันสารทจีน คือ วันที่ลูกหลานชาวจีนแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับด้วยพิธีเซ่นไหว้ ด้วยอาหารคาวหวาน โดยจะเน้นเมนูที่บรรพบุรุษชื่นชอบ และยังมีการไหว้เจ้าที่ สัมภเวสี ผีไม่มีญาติ เพื่อเป็นการให้ทาน เนื่องจากเป็นเดือนแห่งที่นรกเปิดให้วิญญาณทั้งหลายสามารถมารับกุศลผลบุญในโลกมนุษย์ได้ และโต๊ะเซ่นไหว้ในวันสารทจีนอาจไม่ได้จัดเต็มหรืออลังการเท่าวันตรุษจีนนัก
ประวัติและตำนานวันสารทจีน
มีตำนานที่เล่าถึงประวัติวันสารทจีนไว้ถึง 2 ตำนานด้วยกัน
ตำนานวันสารทจีน เรื่องที่ 1

โดยตำนานนี้ได้กล่าวไว้ว่า วันสารทจีนคือวันที่ “เงี่ยมล้อเทียนจือ” (ยมบาล) ตรวจดูบัญชีรายชื่อวิญญาณ เพื่อคัดส่งไปสวรรค์หรือนรก ชาวจีนที่ยังเป็นมนุษย์รู้สึกสงสารเหล่าวิญญาณที่อาจต้องตกนรก จึงได้ทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้ เงี่ยมล้อเทียนจือจึงสั่งให้มีการเปิดประตูนรก เพื่อให้วิญญาณร้ายได้ออกไปรับผลบุญกุศลในโลกมนุษย์
ตำนานวันสารทจีน เรื่องที่ 2

มีชายหนุ่มซึ่งเป็นคนเคร่งครัดในศาสนามาก นามว่า “มู่เหลียน” เขามีมารดาที่นิสัยใจบาปหยาบช้า ไม่ศรัทธาในศาสนาใด และไม่เชื่อในกฏแห่งกรรม ซึ่งผิดจากมู่เหลี่ยน เมื่อเข้าเทศกาลกินเจในปีหนึ่ง มารดาของมู่เหลียนได้รู้สึกหมั่นไส้ผู้ที่ถือศีลกินเจ นุ่งขาวห่มขาว นางจึงให้บุตรชายไปเชิญผู้ถือศีลเหล่านั้นมาที่บ้าน เพื่อทานอาหารที่นางจัดเตรียมไว้ให้ เหล่าผู้ถือศีลกินเจพลอยยินดีที่มารดาของมู่เหลียนเกิดเปลี่ยนใจมาศรัทธาในบุญกุศล จึงพากันไปทานอาหารที่บ้านของนาง โดยไม่ได้เอะใจเลยว่าในน้ำแกงเจมีน้ำมันหมูเจือปนอยู่ การกระทำของมารดามู่เหลียนถือว่าเป็นกรรมหนัก เมื่อตายไปจึงไปตกนรกอเวจีมหานรกขุมที่ 8 ซึ่งเป็นนรกขุมที่ลึกที่สุด และวิญญาณทุกดวงที่ตกสู่นรกขุมนี้จะได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
มู่เหลียนเกิดคิดถึงมารดาที่ล่วงลับ จึงได้ถอดจิตลงไปเยี่ยมมารดาในนรกภูมิ และเมื่อเห็นว่ามารดาของตนอดอยากจากบาปกรรมที่เคยได้ทำไว้เมื่อครั้งที่มีชีวิตอยู่ ก็รู้สึกสงสารจึงป้อนอาหารแก่มารดา แต่เมื่อเม็ดข้าวที่ป้อนไปจะเข้าปากมารดาก็กลายเป็นไฟเผาไหม้ริมฝีปากนางจนพอง และได้รับความเจ็บปวดทรมาน แถมยังมีบรรดาภูตผีที่อดอยากรุมแย่งอาหารไปกินหมด มู่เหลียนสงสารมารดาและด้วยความกตัญญูจึงอ้อนวอนพญาเหงี่ยมล่ออ๊อง (ยมบาล) ขอรับโทษแทนมารดา
แต่มู่เหลียนไม่สามารถรับโทษกรรมแทนมารดาได้ เนื่องจากกรรมใดใครก่อย่อมเป็นกรรมของผู้นั้น แต่ด้วยความกตัญญูที่มู่เหลียนมีต่อมารดา จึงได้รับอนุญาตให้มู่เหลียนจัดอาหารให้มารดาเพื่อหลุดพ้นความอดอยากและทุกข์ทรมานต่างๆ ในเดือนที่ประตูนรกเปิดของทุกปีได้ นับแต่นั้นมา ชาวจีนจึงได้ถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อกันมา ด้วยการเซ่นไหว้อาหารคาวหวาน และนำกระดาษเงิน กระดาษทองไปวางไว้ที่หน้าบ้านหรือตามทางแยกที่ไม่ไกลนัก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเหล่าวิญญาณเร่ร่อนไปจากบ้านหรือที่พักของตน
วันสารทจีนไหว้อะไรบ้าง
ของไหว้ในเทศกาลสารทจีนจะแบ่งออกเป็น 3 ชุด ดังนี้
ชุดไหว้เจ้าที่

การไหว้เจ้าที่นี้ จะทำการไหว้ในช่วงเช้า และไม่เกินเที่ยง โดยมีอาหารคาว-หวาน ขนมกุยช่าย ขนมเทียน ขนมเข่ง (ต้องมีจุดแดงตรงกลาง เพราะชาวจีนเชื่อว่าสีแดงเป็นสีศิริมงคล) ผลไม้ น้ำชา หรือเหล้าจีน กระดาษเงิน กระดาษทอง
ชุดไหว้บรรพบุรุษ

อาหารเซ่นไหว้บรรพบุรุษอาจคล้ายกับของที่ไหว้เจ้าที่ อาจเสริมหรือเน้นเมนูโปรดของบรรพบุรุษ แต่จะต้องมีน้ำแกงหรือขนมน้ำใส ๆ วางข้างชามข้าวสวย น้ำชาจัดชุดตามจำนวนของบรรพบุรุษ และอาหารไหว้ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ขนมเทียน ขนมเข่ง ผลไม้ และกระดาษเงิน-กระดาษทอง
ชุดไหว้สัมภเวสี ผีเร่ร่อน

สัมภเวสี ซึ่งรวมเหล่าวิญญาณเร่ร่อน วิญญาณไม่มีญาติทั้งหลาย หรือในภาษาจีนเรียกว่า ไป๊ฮ๊อเฮียตี๋ ที่แปลว่า ไหว้พี่น้องที่ดี เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผีไร้ญาติว่าเป็นพี่น้องที่ดีของเรา โดยจะทำการไหว้นอกบ้าน ซึ่งของเซ่นจะมีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ผลไม้ และขนมต่างๆ โดยจะมีข้าวหอมแบบจีนโบราณ คอปึ๋ง เส้นหมี่(ห่อใหญ่) เหล้า น้ำชา และกระดาษเงิน-กระดาษทอง ที่จัดอยู่ด้วยกันในการเซ่นไหว้