Business Lifestyle Travel

เที่ยวนครศรีธรรมราช สูดโอโซนเมืองใต้ หรอยจังหู้วว!

หากพูดถึงเที่ยวภาคใต้ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงทะเล หรือเมืองท่องเที่ยว อย่าง ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะพะงัน หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ามีอีกหลายจังหวัดในภาคใต้ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้กัน และเมืองใต้ก็ไม่ได้มีดีเพียงแค่ ทะเล เท่านั้น แต่ยังคงมีความสวยงามทางวัฒนธรรมท้องถิ่น สถานที่ อาหาร และน้ำใจของผู้คน 

“นครศรีธรรมราช” จังหวัดที่มีฉายาในอดีตว่า เมืองคนดุ แต่นั่นก็เป็นเพียงฉายาในอดีต แต่ในความเป็นจริง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นอีกจังหวัดที่น่าเที่ยว เป็นเมืองแห่งภูเขา น้ำตก ลำธาร และฟ้าคราม มีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่คิด เราจึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช เพื่อชี้เป้าให้คุณได้ไปลองสัมผัสบรรยากาศ สถานที่ วัฒนธรรม และผู้คน แห่งเมืองใต้ … ไม่แน่นะ หากได้ลองไปเที่ยวแล้ว คุณอาจร้องเพลง “โอ่ โอ ปักษ์ใต้บ้านเรา แม่น้ำ ภูเขา ทะเล กว้างไกล อย่าไปไหน กลับใต้บ้านเราๆ” 

ที่เที่ยวในนครศรีธรรมราช

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร 

มาถึงเมืองนครศรีฯ เมืองพระ มั่นอยู่ในสัจจะ ศีลธรรม กอปรกรรมดี ก็ต้องแวะกราบไหว้สักการะ “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” หรือที่ชาวนครเรียกว่า “วัดพระธาตุ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สัญลักษณ์ และตราประจำจังหวัดของนครศรีธรรมราชกันก่อน วัดมหาธาตุฯ เป็นวัดอารามหลวง หรือวัดเจดีย์พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ซึ่งพระบรมธาตุเจดีย์เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า 

นอกจากเป็นวัดที่ยึดเหนี่ยวจิตใจชาวนครศรีฯแล้ว ยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ภายในมีองค์พระบรมธาตุเจดีย์ มียอดเจดีย์หุ้มทองคำแท้ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ พระทันตธาตุ (พระเขี้ยวแก้วเบื้องซ้าย) โดยตามตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช กล่าวไว้ว่า เจ้าชายธนกุมารและพระนางเหมชาลา เป็นผู้นำเสด็จพระบรมธาตุมาประดิษฐานไว้ ณ หาดทรายแก้ว และสร้างเจดีย์องค์เล็กๆ เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นที่มาว่าทำไม ภายในบริเวณวัดรายล้อมไปด้วยเจดีย์น้อยใหญ่ และเจดีย์มีสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ทั้งที่อยู่เมืองใต้แท้ๆ นอกจากนี้ยังมีความน่าอัศจรรย์ใจอีกอย่งหนึ่ง ที่นับเป็นอันซีนไทยแลนด์ นั่นคือ องค์พระธาตุจะไม่ทอดเงาลงพื้น แม้ว่าจะแสงอาทิตย์กระทบทางใด ก็จะไม่มีได้เห็นเงาพระธาตุอยู่บนพื้น นับว่าเป็นความน่ามหัศจรรย์ใจ และเป็นที่มาของผู้คนเรียกพระธาตุว่า “พระธาตุไร้เงา”

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมี ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ คือ การนำผ้าผืนยาวขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งเป็นประเพณีประจำปีที่สืบทอดกันมานาน โดยชาวนครศรีธรรมราชจะช่วยกันบริจาคเงินตามกำลังศรัทธา เพื่อรวบรวมเงินนำไปซื้อผ้ามาเย็บต่อกันเป็นผ้าผืนยาวนับพันหลา แล้วร่วมใจจัดขบวนแห่ผ้าขึ้นไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์ โดยผ้าที่นำไปขี้นห่มพระบรมธาตุนี้เรียกว่า “ผ้าพระบฎ” (พระบต) นิยมใช้ผ้าสีขาว สีเหลือง และสีแดง ซึ่งผ้าสีขาวจะเขียนภาพที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกบรรพชา ตรัสรู้ และ ปรินิพพาน

วัดมหาธาตุวรมหาวิหารตั้งอยู่ที่ ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครศรีธรรมราช สามารถเข้าเยียมชมได้ทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น. เป็นสถานที่เที่ยวนครศรีธรรมราช ที่เป็นทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ควรค่าแห่งการสักการะ และยังเป็นอันซีนไทยแลนด์ ที่ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ 

ที่เที่ยวพรหมคีรี

วัดขุนเขาพนม (พระเจ้าตากสินมหาราช) 

โบราณสถานสำคัญและเป็นอีกหนึ่งในที่เที่ยวนครที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่เคยเป็นที่จำพรรษาของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งที่พระองค์ได้ออกครองผ้าจีวรเป็นพระภิกษุ ที่นี่มีพระตำหนักทรงศีล เขตพระราชฐานพระรูปทรงผนวช พระตำหนักทรงบัลลังก์ สงบร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพรรณ และมีถ้ำขุนพรมพระนอนโบราณ เป็นวัดถ้ำที่ควรแวะเยี่ยมชมความสวยงาม และกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล 

ประวัติของวัดขุนเขาพนม ได้มีความเชื่อกันว่า เขาขุนพนม เคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าตากสินมหาราช หลังจากมีการสับเปลี่ยนพระเจ้าตากสินกับทหารคนสนิท หลังจากที่ต้องได้โทษประหารชีวิต และพระเจ้าตากสินได้เดินทางเสด็จมายังเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเป็นที่ประทับและเจริญวิปัสสนากรรมฐานขณะที่ทรงผนวช  และการสร้างป้อมปราการแห่งนี้ได้มีความแตกแขนงว่า มีการเตรียมเชิงเทินและป้อมตามชะง่อนผา เพื่อรองรับให้พระเจ้าตากสินฯได้ทรงประทับ ชาวเขาขุนพนมที่เชื่อว่าพระเจ้าตากมาประทับที่แห่งนี้ ได้ร่วมมือกันสร้างพระตำหนักสมเด็จพระเจ้าตากฯ บริเวณชะง่อนหินเชิงเขา ที่เชื่อกันว่าเป็นที่ๆพระองค์ประทับ ในขณะที่อีกเสียงก็เชื่อว่า ที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพระยาตรังภูมาภิบาล เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อไว้เป็นที่พักตากอากาศ 

วัดขุนเขาพนมเป็นที่เที่ยวพรหมคีรีอีกแห่งที่น่าสนใจ และเพื่อไหว้สักการะพระบรมสาทิสลักษณ์ ที่ชาวขุนเขาพนมได้ร่วมกันสร้าง และได้อัญเชิญมาไว้ในศาล เพื่อให้ผู้คนที่ศรัทธาได้ไหว้เคารพและระลึกถึงวีรกรรมและความกล้าหาญ ในการกู้เอกราชเมืองสยามในสมัยกรุงศรีอยุธยา จนเราได้เป็นไทจนถึงปัจจุบันนี้ โดยสถานที่แห่งนี้มีความร่มเย็นสงบ และลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ เพราะเป็นภูเขาหินปูนลูกโดดเตี้ยๆ ซึ่งบนภูเขามีถ้ำหินปูนที่มีโพรงหินงอกหินย้อย และมีโบราณสถานเขาขุนพนมให้เดินเยี่ยมชม ได้แก่ พระตำหนักทรงบัลลังก์ , พระตำหนักทรงศีล , เขตพระราชฐานพระรูปทรงผนวช และ ถ้ำเขาขุนพนม ที่มีพระนอนโบราณ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่นั่งเจริญวิปัสสนากรรมฐานของพระเจ้าตากสินมหาราช 

นอกจากนี้ภายในวัดขุนเขาพนมยังมีถ้ำน้ำ และสระน้ำโบราณที่เรียกว่า “สระนางเลือดขาว” ซึ่งเป็นสระน้ำไว้สำหรับบาทบริจาริการ นางสนมกรมใน หรือหญิงที่มีหน้าที่รับใช้พระเจ้าแผ่นดิน โดยตำนานกล่าวว่าเป็นที่สระนางเลือดขาว คือที่ชำระร่างกายของนางเลือดขาว หรือ หม่อมปราง (เป็นหญิงผิวขาวมีเชื้อสายจีน) ที่ตามเสด็จพระเจ้าตากสินเพื่อมาคอยรับใช้พระองค์ หากใครต้องการแวะเยี่ยมชมวัดขุนเขาพนม ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช 

ที่เที่ยว สิชล ขนอม

ไอ้ไข่ วัดเจดีย์

สถานที่เที่ยวสิชล ถ้าจะไม่เอ่ยถึง ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ คงไม่ได้ เพราะเชื่อว่าในยุคนี้ ผู้คนหลากหลายวงการย่อมรู้จัก ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ ขอได้ ไหว้รับ  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวนครศรีธรรมราช หากใครได้มาเที่ยวนครก็ย่อมต้องไม่พลาด บางคนบินตรงมาเพื่อได้บูชาวัดเจดีย์โดยเฉพาะ ซึ่งวัดเจดีย์แห่งนี้ถูกสร้างมาแล้วกว่า 1,000 ปี และเคยเป็นวัดร้างมาก่อน แต่สิ่งที่ทำให้วัดนี้มีชื่อเสียง และเมืองสิชลที่เที่ยวขึ้นมาก็คือ รูปแกะสลักเด็กชายที่อยู่ในศาลาวัดเจดีย์ ที่เชื่อว่ามีวิญญาณเด็กวัด ซึ่งเป็นศิษย์วัดเจดีย์อาศัยอยู่ โดยเป็นที่รู้จักกันในนาม “ไอ้ไข่” หรือ ตาไข่ นั่นเอง 

ด้วยความเชื่อและศรัทธาของผู้คน ที่มาขอพรแล้วสัมฤทธิ์ ทำให้มีการเล่าลือกันอย่างรวดเร็ว และมักจะได้ยินเสียงประทัดที่จุดกันดังสนั่นหวั่นไหว จนกลายเป็นภูเขาซากประทัดสีแดงเห็นชัดแต่ไกล แต่ก่อนที่จะเป็นวัดที่มีชื่อและเป็นสถานที่เที่ยวสิชล เคยเป็นวัดร้างมาก่อน จนเมื่อปี 2500 มีการบูรณะวัดเจดีย์ขึ้นมาใหม่ มีพระมาอยู่ประจำวัด และเริ่มมีการปฏิบัติศาสนกิจตั้งแต่นั้นมา 

สำหรับ ไอ้ไข่ คือรูปแกะสลักไม้เด็กชาย อายุราวๆ 9-10 ขวบ ที่ตั้งอยู่ในศาลาวัดเจดีย์ และชาวบ้านเชื่อว่ามีวิญญาณเด็กวัดเจดีย์อาศัยอยู่ โดยเป็นที่เคารพของคนในบริเวณใกล้วัด ไปจนแทบทุกจังหวัดของภาคใต้ ประวัติและที่มาของ ไอ้ไข่ มีหลายความเชื่อด้วยกัน โดยบางตำนานเล่าว่า เคยมีชาวบ้านเห็นมีเด็กวิ่งเล่นอยู่ในวัดร้าง แต่พอไปดูก็ไม่พบเห็นใคร จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นวิญญาณที่สถิตอยู่ในวัดเจดีย์ และชาวบ้านได้พากันเรียกว่า ไอ้ไข่ ซึ่งเป็นคำเรียกเด็กผู้ชายของคนใต้ และถึงแม้ว่าจะเป็นวิญญาณ แต่ก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ทำให้ไอ้ไข่เป็นที่รักของชาวบ้าน และเมื่อไรก็ตามที่ข้าวของ วัวควาย ของชาวบ้านหาย ก็จะมาจุดธูปบนบานให้ไอ้ไข่ช่วย ก็ได้ของที่หายนั้นกลับคืนมา จึงยิ่งทำให้ไอ้ไข่เป็นที่เคารพรักของชาวบ้าน และเป็นที่เล่าลือจนมีชื่อเสียงไปทั่วภาคใต้ 

ยังมีอีกหลายตำนานที่ทั้งใกล้เคียง และแตกต่างกันไป แต่ปัจจุบัน ไอ้ไข่ เป็นที่เคารพและศรัทธาของคนจำนวนมาก โดยไม่ได้จำกัดเพียงแค่ชาวนครฯเท่านั้น หากใครไปเที่ยวนครก็อย่าลืมแวะไอ้ไข่วัดเจดีย์ ขอได้ ไหว้รับ ซึ่งอยู่ที่ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และเวลาที่เปิดให้บริการ 08.00 – 18.00 น. 

ถ้ำเขาวังทอง 

ที่เที่ยวขนอมที่เป็นอันซีนหนึ่งเดียวของ ต.ควนทอง อ.ขนอม ซึ่งเป็นถ้ำหินปูนผสมแร่เหล็ก ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ อยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ โดยภายในถ้ำจะให้ความรู้สึกเหมือนห้องโถงขนาดใหญ่ ที่มีห้องเล็ก ห้องน้อย หลายห้องคละกันไป และในแต่ละห้องก็มีหินงอกหินย้อย มีความหลากหลายรูปแบบ ตามธรรมชาติรังสรรค์และจินตนาการของผู้ที่ได้พบเห็น และนอกจากความสวยงามแล้ว ยังแฝงไปด้วยความสนุกในการเข้าชม ซึ่งบางห้องอาจจะต้องคลานเข้าไป บางห้องก็ต้องปีนเพื่อเข้าไปเยี่ยมชม สร้างความหลากหลายอารมณ์ในการเที่ยวชมในที่เดียว 

สิ่งที่เป็นอันซีนของถ้ำเขาวังทอง มีอยู่ 3 แห่งด้วยกัน ได้แก่ หินเจ้าแม่กวนอิม หินเจดีย์พระธาตุ และหินไดโนเสาร์ รวมไปถึง น้อยหน่าถ้ำ หรือ ลูกหิน ที่เป็นหินทรงกลมที่ดูเหมือนงอกมาจากพื้นถ้ำ นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติที่ใช่ว่าจะพบเห็นได้ง่ายๆ และหากใครต้องการจะมาเที่ยวถ้ำเขาวังทอง และได้เห็นฝนตกในถ้ำ ให้เดินทางมาช่วงหน้าฝน จะได้เห็นกับน้ำที่ไหลจากข้างนอกเข้ามาภายในถ้ำ และจะได้เห็นความสวยงามของฝนตกภายในถ้ำ และจะต้องติดต่อกับผู้ดูแลถ้ำ และมีผู้ชำนาญทางพาเข้าเยี่ยมชมภายในถ้ำทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย 

หาดขนอม อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ (ชมโลมาสีชมพู) 

ใครว่านครศรีธรรมราชไม่มีทะเลให้เล่น…หาดขนอม หรือ อุทยานฯ หาดขนอม เป็นชายหาดที่ยื่นยาวออกไปในทะเลที่มีทิวสนขนาบเรียงราย  อุดมสมบูรณ์ด้วยปะการังสวยงาม ทั้งปะการังจาน ปะการังสมอง ปะการังเขากวาง เป็นที่เที่ยวในขนอมยอดฮิตของคนนครฯ เพราะที่นี่รวมแหล่งท่องเที่ยวขนอม ทั้ง หาดหน้าด่าน หาดในเพลา หาดท้องโหนด อ่าวท้องหยี อ่าวในเพลา อ่าวท้องชิง น้ำตกท่าน้อย น้ำตกหนานไผ่  และ ถ้ำเขาวัง จุดชมทิวทัศน์เขาดาดฟ้า ที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ ชมวิวเกาะสมุย และดูนกป่า และหาดขนอมก็ยังเป็นจุดชมโลมาสีชมพูอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นที่อุทยานแห่งชาติขนอมฯมีจุดกางเต็นท์ให้ แต่ต้องเตรียมเต็นท์และอาหารไปเอง เป็นการกางเต็นท์แบบใกล้ชิดธรรมชาติแท้จริง และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือบ้านพักบริการ เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบจบท่องเที่ยวขนอม อุทยานแห่งชาติขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช 

ที่เที่ยวลานสกา

หมู่บ้านคีรีวง (โอโซนเมืองใต้)

ที่เที่ยวคีรีวงลานสกา แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติท่ามกลางหุบเขา และวิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ที่ย้ายอพยพไปอยู่บนเขาหลวง โดยชื่อเดิมของชุมชนนี้คือ “บ้านขุนน้ำ” เพราะตั้งอยู๋ใกล้กับต้นน้ำจากยอดเขาหลวง และได้มีการเปลี่ยนชื่อในเวลาต่อมาเป็น “บ้านคีรีวง” ซึ่งมีความหมายว่า หมู่บ้านที่มีภูเขาล้อมรอบ และด้วยที่หมู่บ้านแห่งนี้มีความเงียบสงบ มีความสวยงามของธรรมชาติอย่างแท้จริงอยู่มาก รวมไปถึงวิถีชนบทที่เรียบง่าย เต็มอิ่มด้วยบรรยากาศหมู่บ้านท่ามกลางหุบเขา จนกลายเป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จนได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Thailand Toutism Awards) ประจำปี 2541 ในประเภทมเมืองและชุมชน 

เมื่อได้มาเที่ยวลานสกาอย่างบ้านคีรีวง รับรองว่ามีกิจกรรมสนุกๆที่สามารถเลือกได้หลากหลาย ทั้งการปั่นจักรยานเที่ยวชมรอบหมู่บ้าน เล่นน้ำในลำธารที่น้ำใสไหลเย็นชื่นใจ เดินเที่ยวชมสวนผลไม้ (ช่วงฤดูผลไม้ ประมาณเดือนกรกฏาคม-ตุลาคม) นอกจากนี้ยังมีโฮมสเตย์ของชาวบ้านให้สัมผัสวิถีชาวบ้านและใกล้ชิดธรรมชาติอย่างสุดๆ จะนั่งพักชิมกาแฟชมวิวหมู่บ้าน ก็มีร้านคาเฟ่น่ารักๆให้บริการ หรือจะแวะอุดหนุนสินค้าพื้นเมืองติดไม้ติดมือ ไปเป็นของขวัญของฝาก หรือจะแวะชมการทำผ้าบาติก ผ้ามัดย้อมที่ทำจากสีธรรมชาติ ด้วยภูมิปัญญาของชาวบ้าน และยังมีเวิร์คช้อป ให้ลองทำผ้าบาติกด้วยตัวเองอีกด้วย เรียกได้ว่ามีกิจกรรมให้เลือกทำได้ทั้งวันอย่างไม่รู้เบื่อเลยทีเดียว หมู่บ้านคีรีวง อยู่ที่ ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช 

Coconut palm tree with Beautiful Tropical beach and sea

สถานที่เที่ยวทุ่งสง

น้ำตกโยง

อำเภอเล็กๆอย่างทุ่งสงที่เที่ยวธรรมชาติก็มีอยู่อย่าง น้ำตกโยง ซึ่งอยู่ ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง เป็นน้ำตกที่มีชั้นหน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลายชนิด ในอุทยานมีต้นไม้หายากอยู่มาก และยังสามารถเดินเที่ยวชมธรรมชาติ ไปยังน้ำตกอื่นๆในอุทยานได้อีก นับว่าเป็นที่เที่ยวทุ่งสงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว 

น้ำตกปลิว

อีกหนึ่งที่เที่ยวในทุ่งสง อย่าง น้ำตกปลิว ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกโยงเช่นเดียวกัน น้ำตกปลิว เป็นน้ำตกขนาดกลางๆ ที่มีถึง 7 ชั้นด้วยกัน โดยแต่ละชั้นจะมีความสวยงามแตกต่างกันไป โดยเฉพาะชั้น 3 จะสามารถมองเห็นวิวของหน้าผาอีกด้านหนึ่ง ในขณะที่ชั้น 5 และชั้น 7 นั้นจะเห็นถึงความสวยงามของสายน้ำตกที่ไหลพลิ้ว แลดูสวยงามและชวนน่ามอง รวมไปถึงสายน้ำเย็นชื่นใจที่มีนักท่องเที่ยวไปเล่นน้ำไม่ขาดสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้าฝน เพราะจะมีน้ำมากพอให้เล่นทุกชั้นได้อย่างสะใจเลยทีเดียว 

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลายแห่ง แต่จะนำมาไว้ในบทความนี้ก็คงจะยาวเกินไป เราจึงหยิบยกสถานที่เที่ยวนครศรีธรรมราชที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดมาฝากพอเป็นน้ำจิ้ม และแม้คนใต้จะชอบพูดอะไรห้วนๆ หรือน้ำเสียงอาจดูรุนแรง ก็แค่เพียงความหรอย ความได้แรงอก (พูดได้รสชาติ) ซึ่งก็เป็นเพียงภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ด้านน้ำใจนั้น คนใต้รักพวกพ้อง และพร้อมหยิบยื่นไมตรีให้กับคนอื่นเสมอ เพียงแต่อย่าได้ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ เพราะอาจดุยิ่งกว่าเสือ ถ้าอยากรู้ว่านครศรีธรรมราช ที่เที่ยวที่เรานำมาเสนอนั้นดีแค่ไหน คนนครศรีฯ มีน้ำใจจริงไหม ไปพิสูจน์กัน!

You may also like

Blog Business Health Lifestyle

สัญลักษณ์วันคริสต์มาสมีอะไรบ้าง พร้อมความหมายของตกแต่งคริสต์มาส และธีมสีคริสต์มาส

post-image

เมื่อพูดถึงวันคริสต์มาส สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่นึกถึง มักจะเป็นลุงหน้าตาใจดี มีหนวดเคราสีขาว และสวมชุดสีแดง ชอบมาแจกของขวัญคริสต์มาสให้กับเด็ก ๆ และผู้คน ใช่แล้ว “ซานตาครอส” นั่นเอง และสัญลักษณ์วันคริสต์มาสอีกสิ่งที่จะขาดไม่ได้ คือ “ต้นคริสต์มาส” หรือ ต้นสนที่ถูกประดับด้วยของตกแต่งต่าง ๆ ซึ่งกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญ และเป็นสัญญาณให้ทุกคนรู้ว่า เทศกาลแห่งความสุขใกลเข้ามาแล้ว ดังนั้น เพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสที่ใกล้จะถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้ Homedecorily จะมาชวนทุกคนแต่งบ้านด้วยสิ่งของวันคริสต์มาส พร้อมกับประวัติที่มาที่ไป ทำไมจึงนิยมนำมาใช้เป็นของตกแต่ง จนกลายเป็นสัญลักษณ์เทศกาลคริสต์มาส

สัญลักษณ์วันคริสต์มาสมีอะไรบ้าง

1. ต้นคริสต์มาส (Christmas Tree)

ต้นคริสต์มาส เปรียบเสมือนเป็น ต้นไม้แห่งชีวิต หรือ ต้นไม้ในสวนสวรรค์ของพระเจ้า เนื่องจากเป็นต้นไม้มีสีเขียวขจีตลอดปี อีกทั้งในคำภีร์ไบเบิล (ยอห์น 15:5) ได้กล่าวไว้ว่า พระเยซู เปรียบเสมือนเป็นต้นไม้แห่งชีวิต คอยเป็นแสงสว่างนำทางให้แก่ผู้คนท่ามกลางความมืด เป็นศูนย์รวมจิตใจ หล่อหลอมให้ผู้คนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังนั้น ต้นคริสต์มาส เป็นสัญลักษณ์ของศูนย์รวมคนในครอบครัวช่วงวันคริสต์มาส เมื่อใกล้เข้าสู่เดือนธันวาคม ผู้คนจะเริ่มดีไซน์และตกแต่งต้นคริสต์มาส เพื่อต้อนรับและเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขพร้อมกับครอบครัวหรือคนที่รัก โดยแต่ละบ้านและสถานที่ต่าง ๆ จะมีการประดับด้วยของตกแต่งสัญลักษณ์วันคริสต์มาสที่มีความหมายแตกต่างกันไป

สำหรับที่มาของต้นคริสต์มาส เริ่มจากมิชชันนารีชาวอังกฤษ เซนต์บอนิเฟส ที่เดินทางไปเผยแผ่ศาสนาในเยอรมนี ได้ทำการช่วยเหลือเด็กถูกใช้เป็นเครื่องสังเวย และกำลังจะถูกฆ่าใต้ต้นโอ๊ก หลังจากช่วยเหลือเด็กได้ และมีการโค่นต้นโอ๊กทิ้ง ปรากฏ ต้นสนเล็ก ๆ ต้นหนึ่ง ขึ้นอยู่ที่โค้นต้นโอ๊ก มิชชันนารีจึงเปรียบต้นสนเสมือนว่าเป็นต้นไม้แห่งชีวิต และตั้งชื่อว่า ต้นกุมารพระคริสต์ จนกระทั่ง เดือนธันวาคม ค.ศ.1540 มาร์ติน ลูเธอร์ ซึ่งเป็นผู้นำคริสตจักรชาวเยอรมัน ได้เห็นแสงจันทร์ส่องลอดผ่านต้นสน มีความสวยงามน่าอัศจรรย์ จึงได้ตัดต้นสนไปตั้งไว้ในบ้าน และตกแต่งด้วยแสงเทียน จนมีผู้คนนำไปทำตามทั่วเยอรมนี กระทั่งเริ่มแพร่หลายในประเทศอังกฤษและทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนเหตุผลที่ใช้ต้นสนทำเป็นต้นคริสต์มาส เพราะหาง่าย โดยเฉพาะในประเทศโซนยุโรป

2. พวงมาลัยคริสต์มาส (The Christmas Wreath)

พวงมาลัยคริสต์มาส หรือ The Christmas Wreath คือ สัญลักษณ์ของมงกุฏหนามบนศีรษะพระเยซู เมื่อครั้งถูกนำไปตรึงบนกางเขน ซึ่งชาวคริสต์เชื่อกันว่า มงกุฏของเยซูจะช่วยลดทอนพลังชั่วร้าย ปกป้องทุกคนในบ้านให้ปลอดภัยจากปีศาจร้ายได้ จึงนิยมนำ The Christmas Wreath แขวนไว้หน้าประตูบ้าน…

Read More
Blog Business Lifestyle

บริหารเงินอย่างไรให้มีเงินใช้หลังเกษียณ 

post-image

สำหรับใครที่กำลังเริ่มวางแผนปลดตัวเองออกจากงานประจำอยู่ หรือเข้าวัยที่ใกล้จะเกษียณ แต่ยังมองภาพไม่ออกว่าจะบริหารการเงินอย่างไรให้มีเงินใช้หลังจากเกษียณโดยไม่ลำบาก และยังมีเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ลองทำตาม การบริหารเงินให้มีเงินใช้เมื่อต้องเกษียณอายุงาน แบบฉบับนักวางแผนการเงิน ที่เราได้นำมาฝากในบทความนี้กันดีกว่า รับรองว่า ทำได้ตามนี้มีเงินไว้ใช้ยามเกษียณแน่นอน  

1. แยกประเภท “รายจ่าย”  ก่อนจะต่อยอดเงิน

ในการดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคน ย่อมมี รายจ่าย เป็นอุปสรรคใหญ่ของการเก็บออมเงิน มีทั้งแบบที่รายจ่ายมากกว่ารายรับ ทำให้มีเงินไม่พอเก็บ หรือมัวแต่จ่ายจนลืมเก็บ เพราะไม่มีการจัดการบริหารการเงินใด ๆ แต่ถ้าต้องมีสภาพคล่องทางการเงินในชีวิตหลังเกษียณ การทำความเข้าใจในรายจ่ายแต่ละประเภท จัดเรียงความสำคัญ เพื่อที่จะได้วางแผนการเงินจึงมีความสำคัญ โดยประเภทรายจ่ายในการดำเนินชีวิต มีดังนี้ 

  • หนี้สิน รายจ่ายสำคัญข้อแรกที่ต้องให้ความสำคัญ และไม่ควรลืมที่จะหาทางการชำระหนี้ให้ถูกต้อง เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ เป็นต้น 
  • รายจ่ายทั่วไป คือ รายจ่ายที่เราหลีกเลี่ยงได้ยาก เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ และค่าดูแลส่วนอื่น ๆ ภายในบ้าน 
  • รายจ่ายการดูแลสุขภาพ ปัญหาสุขภาพ ถือว่าสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยที่เราไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ การวางแผนการเงินในส่วนนี้ จะช่วยให้สะดวกและลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลลงได้ เช่น การทำประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เป็นต้น 
  • รายจ่ายอื่น ๆ มักจะเป็นการจ่ายเพื่อเติมเต็มความสุขให้กับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในด้านการเข้าสังคม การซ่อมแซมบำรุงหรือตกแต่งที่อยู่อาศัย หรือค่าใช้จ่ายระหว่างการท่องเที่ยว 

ต้องเก็บเงินเท่าไรจึงจะมีเงินใช้หลังเกษียณ

การคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ในการเก็บเงินใช้หลังเกษียณ สามารถคำนวณได้ดังนี้ 

ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ = รายจ่าย / ปี   x  80%  x จำนวนปีที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณ 

2. มองหาแหล่ง “รายได้” ประจำ 

หลังจากที่คำนวณรายจ่ายคร่าว ๆ ที่จะต้องมีไว้ใช้หลังเกษียณกันไปแล้ว จากนั้นเราก็มาคำนึงรายได้ในช่องทางต่าง ๆ เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายหลังเกษียณได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

Blog Business Lifestyle

แหนแดงคืออะไร ใช้แหนแดงทดแทนปุ๋ยเคมีดีไหม 

post-image

กระแสแหนแดงมาแรงแซงทางโค้ง เนื่องจากปุ๋ยราคาแพงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกษตรกรมีภาระหนักเกินกำลัง จึงต้องมีการมองหาตัวช่วยที่จะใช้ทดแทนปุ๋ย เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนของต้นทุนการผลิต ทำให้ แหนแดง เข้ามามีบทบาทสำคัญกับเกษตรกรและการเกษตรอย่างมีนัยยะ 

แหนแดงคืออะไร 

แหนแดง (Azolla spp.) เป็นพืชชนิดเฟิร์นน้ำขนาดเล็ก พบได้ในบริเวณน้ำนิ่งทั่วไป ในใบของแหนแดงมี Cyanobacteria หรือ สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน อาศัยอยู่ จึงช่วยสามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศได้ ทำให้แหนแดงมีธาตุไนโตรเจนสูง เติบโตง่าย ปลอ่ยไนโตรเจนและธาตุอาหารพืชอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และสลายตัวได้ง่าย เหมาะต่อการนำมาใช้เป็นปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยชีวภาพ และ อาหารสัตว์ ทำให้มีการนำแหนแดงแห้งมาใช้เป็นแหล่งธาตุอาหารให้กับผัก โดยเฉพาะธาตุไนโตรเจน ที่ช่วยบำรุงพืชผักในส่วนของใบและลำต้นได้เป็นอย่างดี 

ชาวนานิยมนำแหนแดงใช้ร่วมกับการปลูกข้าวเพื่อทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี ใช้เป็นปุ๋ยพืชสด และช่วยลดการเจริญเติบโตของวัชพืชในนาข้าว ซึ่งที่ผ่านมาจะมีการใช้ประโยชน์แหนแดงในนาข้าวเท่านั้น แต่เมื่อปุ๋ยมีราคาแพงมากขึ้น และมีกระแสส่งเสริมเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ ด้วยคุณสมบัติของแหนแดงที่สามารถใช้ทดแทนปุ๋ยเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กรมวิชาการเกษตรได้นำประโยชน์ของแหนแดงมาใช้กับพืชอื่น ๆ จนกลายเป็นปุ๋ยพืชสดที่มีศักยภาพสูงและมีบทบาทสำคัญต่อระบบเกษตรพอเพียง เนื่องจากเป็นพืชที่ช่วยตอบโจทย์ด้านการเกษตรครบวงจร

แหนแดงมีประโยชน์ด้านการเกษตรอย่างไร

  • ใช้ทดแทนปุ๋ยเคมี ทำให้ลดการใช้เคมี ช่วยลดต้นทุน
  • เพิ่มอินทรีย์วัตถุในดิน 
  • ใช้ควบคุมวัชพืชในนาข้าว ลดการใช้เคมีกำจัดวัชพืช 
  • ใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์สำหรับพืชผักและผลไม้อื่น ๆ ได้ 
  • ใช้แหนแดงร่วมกับปุ๋ยเคมี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยเคมี ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 10 -15% 
  • ใช้เป็นอาหารสัตว์ เช่น ไก่ เป็ด ปลา และ สุกร 
  • ต้นทุนการผลิตต่ำ

เนื่องจากแหนแดงเป็นพืชธรรมชาติ เลี้ยงและขยายพันธุ์ง่าย เติบโตไว ทำให้เกษตรกรสามารถผลิตไว้ใช้เองได้ ใช้ต้นทุนการผลิตต่ำมาก โดยเอกสารทางกรมวิชาการเกษตรได้ระบุไว้ว่า เมื่อหว่านแหนแดงในนา 1 ไร่ จะได้ผลผลิตแหนแดงประมาณ 3,000 กิโลกรัม หรือประมาณ 3 ตัน ซี่งเทียบได้กับปุ๋ยยูเรียประมาณ…

Read More
Blog Business Lifestyle

ใส่ซองงานแต่งยังไงไม่ให้เกิดดราม่า 

post-image

ใครที่กำลังเครียดเพราะถูกเชิญไปงานแต่อยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งของญาติ งานแต่งเพื่อนสนิท งานแต่งเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่งานแต่งเจ้านาย เพราะไม่รู้ว่าจะใส่ซองงานแต่งเท่าไรจึงเหมาะกับฐานะเจ้าของงาน จะใส่มากแต่รายได้ตนเองก็แทบชักหน้าไม่ถึงหลัง หากใส่เงินน้อยก็ห่วงจะมีดรามาตามมา กลัวเพื่อนเลิกคบ โดนนินทา เป็นที่เม้าท์มอยสารพัด อันเป็นผลพวงมาจากจำนวนเงินใส่ซองงานแต่ง คิดแล้วทำให้อยากรู้ว่าใครกันนะเป็นผู้บัญญัติประเพณีการใส่ซองงานแต่งนี้ขึ้นมา ทำไมต้องมีการใส่ซองงานแต่ง ทำไมสังคมต้องตัดสินให้คนใส่เงินในซองน้อยกลายเป็นคนผิด และใส่ซองงานแต่งยังไงจึงจะเหมาะสม โดยไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อนในภายหลัง 

ใส่ซองตามกำลังทรัพย์ที่มี โดยยึดรายได้ของตัวเองเป็นหลัก 

เมื่อได้รับเชิญงานแต่งที่ต้องมีการใส่ซอง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในอันดับแรกเมื่อจะทำการใส่ซอง คือ คำนึงถึงรายได้ของตนเองก่อน สำหรับใครที่มีทักษะบริหารการเงิน จะมีการแบ่งเงินในส่วนของกิจกรรมต่าง ๆ อย่างชัดเจน อาจมีการแพลนค่าไปร่วมงานต่าง ๆ ไว้ เช่น ยอดเงินที่จะใส่ซองร่วมงานต่าง ๆ เพื่อไม่เป็นการสร้างความลำบากให้ตนเองในภายหลัง เคยเจอคำถามว่าใส่ซองงานแต่ง 400 ได้ไหม เพราะว่างงาน หรือมีรายได้น้อย ก็ได้มีผู้แนะนำว่าการใส่ซองงานแต่งที่ดีต่อทั้งตนเองและเจ้าภาพ คือ ไม่ควรใส่ซองเกิน 5% ของรายได้ เช่น เงินเดือน 20,000 บาท ไม่ควรใส่เงินเกิน 1,000 บาท แต่จะใส่เท่าไรในระหว่างจำนวนนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ที่นำมาประกอบในการตัดสินใจต่อไป 

ใส่ตามระดับความสนิทกับเจ้าภาพ

ปัจจัยหลัก ๆ ของจำนวนเงินที่ใส่ซองงานแต่งมักจะขึ้นอยู่กับความสนิทต่อเจ้าภาพเป็นส่วนใหญ่ หากเป็นการใส่ซองงานแต่งเพื่อนสนิท หรือ ญาติพี่น้อง อาจใส่จำนวนเงินมากกว่างานแต่งของคนที่รู้จักเพียงผิวเผิน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเงินในซองถือเป็นสินน้ำใจแสดงความยินดี และช่วยเป็นทุนสนับสนุนในการสร้างครอบครัวใหม่ของคนที่เรารักหรือมีความใกล้ชิดสนิทสนม ยิ่งสนิทมาก รักมาก ยิ่งต้องแสดงความรักและซัพพอร์ทเต็มที่ อาจใส่ซองงานแต่ง 4000 หรือ น้อยกว่า – มากกว่า เท่าที่กำลังทรัพย์เราไหว ส่วนเจ้าภาพที่ไม่ได้สนิทเท่าไร อาจเป็นเพียงคนรู้จัก เพื่อนร่วมงาน อาจใส่น้อยกว่า 1000 บาท ตราบใดที่ไม่เกิน 5% ของรายได้ที่เรามี

ไปร่วมงานแต่งด้วยหรือไม่ 

กรณีใส่ซองงานแต่งไม่ได้ไปร่วมงาน ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม หากจำนวนใส่ซองจะน้อยกว่าปกติสักเล็กน้อยก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดอะไร แต่ถ้าเป็นงานของคนสนิท ญาติมิตร ไม่ควรลดจำนวนเงินใส่ซองให้น้อยลง แต่ควรใส่ซองตามจำนวนปกติหรืออาจมากกว่าเดิม  

Read More
Lifestyle Politics Travel

ระวัง! ถ้าไม่อยากติดคุก ห้ามพูดคำเหล่านี้เด็ดขาดเมื่ออยู่สนามบิน 

post-image

เชื่อว่าคนที่มีประสบการณ์โดยสารเครื่องบินในการเดินทาง ย่อมต้องรู้กฏเกณณ์ห้ามพกพาสิ่งใด หรือห้ามพกวัตถุใดขึ้นเครื่องบิน รวมไปถึง คำต้องห้าม ที่ห้ามพูดเด็ดขาด ไม่ว่าจะด้วยในเจตนาหยอกล้อ หรือพูดเพื่อเป็นมุขตลกก็ตาม เพราะสนามบินคือสถานที่รวมกันของผู้คนหลายเชื้อชาติและจากหลายประเทศ จึงต้องมีการเข้มงวดในด้านการรักษาความปลอดภัยสูง 

ทำไมจึงต้องมีคำต้องห้ามใช้ในสนามบิน 

เนื่องจากบางคำนั้นอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด สร้างความตื่นตระหนก โกลาหล และอาจทำให้เกิดเหตุวุ่นวายจนยากที่จะระงับเหตุการณ์ให้เกิดความสงบได้ ก่อให้เกิดความเสียหาย และเสียเวลาแก่คนจำนวนมาก เพราะอาจต้องมีการตรวจค้น สอบสวน ทำให้การเดินทางล่าช้ากว่ากำหนด เป็นเหตุให้ผู้โดยสารท่านอื่นพลาดการเดินทางตามกำหนดจนอาจเกิดความเสียหายได้อย่างมหาศาล

คำต้องห้ามในสนามบินมีอะไรบ้าง 

คำต่าง ๆ เหล่านี้ แม้จะเป็นการอ่านหนังสือ หรือพูดกับเพื่อน ก็ห้ามพูดหรือออกเสียงออกมาเด็ดขาด 

  • คำพูด หรือ เขียนข้อความใด ๆ ที่แสดงถึงการคุกคาม ข่มขู่ หรือ ทำให้รู้สึกเป็นภัย เช่น พูดว่า “ระวังเชื้อโควิด”…
    • ระเบิด (Bomb , Explosive) เช่น พูดว่า มีระเบิด จะระเบิดสนามบิน เปิดกระเป๋าระวังเจอระเบิด ปาระเบิด เป็นต้น 
    • อาวุธ มีด ปืน  (Gun) เช่น มีปืนกี่กระบอก พกมีดติดตัวมาด้วย 
    • โรคระบาดร้ายแรง เช่น พูดว่า ติดโควิด ป่วยเป็นอีโบล่า 
    • วัตถุอันตราย เช่น ไซยาไนด์หาซื้อได้ที่ไหน 
    • จี้เครื่องบิน ปล้นเครื่องบิน (Hijack) เช่น พูดว่า หยุดนะนี่คือการปล้น จะปล้นให้หมด จะจี้เครื่องบิน หรือ hijack เป็นต้น 
    • การก่อการร้าย (Terrorist Attack) เช่น พูดว่า จะมีการก่อการร้าย นี่คือการก่อการร้าย 
    • คำพูด หรือ เขียนข้อความใด ๆ ที่แสดงถึงการคุกคาม ข่มขู่ หรือ ทำให้รู้สึกเป็นภัย เช่น พูดว่า “ระวังเชื้อโควิด”…
  • Read More
    Business

    รวมกองทุนปันผลที่น่าสนใจ กองทุนตัวไหนน่าจะเหมาะกับเรา

    post-image

    ใครที่เริ่มสนใจหรือมองหาการลงทุนเพื่ออนาคต แต่ไม่รู้ว่าจะลงทุนกับกองทุนไหนดี เพราะไม่เคยทำมาก่อน เราจะมาพาทำความรู้จักกับกองทุนปันผลในตลาดหุ้นหรือธีมที่นับว่าแข็งแกร่ง น่าสนใจที่จะลงทุน โดยจะเลือกลงทุนรายตัวหรือจัดเป็นพอร์ตให้กระจายตัวดี 

    หุ้นปันผลกับกองทุนปันผลต่างกันอย่างไร 

    หุ้นปันผลกับกองทุนปันผลต่างกันอย่างไร

    ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าระหว่าง หุ้นปันผลคืออะไร และกองทุนปันผลคืออะไร จะได้รู้ว่าเหมือนหรือต่างกัน  หุ้นปันผล เป็นหุ้นประเภทหนึ่งที่นักลงทุนต้องการจะมีเก็บไว้อยู่ในพอร์ตลงทุน เพื่อให้ได้เงินปันผลส่วนนี้เป็นรายได้เสริม หรืออาจกลายเป็นรายได้หลักหลังจากที่เกษียณไปแล้ว แต่บางคนอาจต้องการมีหุ้นปันผลเพื่อลดความเสี่ยง ในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน หรือจะทำพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ กองทุนปันผล คือ กองทุนที่นำกำไรที่ได้จากการลงทุนมาแจกจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนนั่นเอง โดยปัจจุบันบริษัทจะนิยมจ่ายเงินปันผล 2 แบบ ด้วยกัน คือ 

    1. จ่ายเป็นเงินสด หรือ Cash Dividend คือรูปแบบที่บริษัทส่วนใหญ่นิยมกันมาก โดยมีเงินปันผลที่ได้มาจากกำไรสะสมของบริษัท โดยจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานปกติ ข้อดี คือ นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผล โดยที่การลงทุนจะยังดำเนินต่อไป ส่วนข้อเสีย คือ เงินปันผลที่ได้อาจไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยนัก เนื่องจากมีการหักภาษีเงินปันผล 10% 

    2. จ่ายเป็นหุ้น หรือ Equity Stock Dividend คือ การเพิ่มทุนเป็นหุ้นสามัญ แล้วจึงจะนำมาจ่ายปันผล โดยกำหนดจ่ายตามอัตราส่วนที่กำหนด เช่น จ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นปันผลในอัตราส่วน 10 : 1 คือ ผู้ถือหุ้นเดิมจะได้รับหุ้นปันผล 1 หุ้น ในทุก ๆ หุ้นเดิมที่ถืออยู่จำนวน 10 หุ้น หากถือหุ้นสามัญ 1,000 หุ้น จะได้รับหุ้นปันผล 100 หุ้น และถ้าถือหุ้นสามัญ 10,000 หุ้น จะได้รับหุ้นปันผล 1,000 หุ้น เป็นต้น 

    โดยปกติหุ้นปันผลจะมีอัตราเงินปันผลหรือ Dividend Yield โดยคำนวณมาจากเงินปันผลต่อหุ้น / ราคา แต่ในส่วนกองทุนปันผลจะบอกเพียงกองทุนปันผลคิดเป็นกี่บาท / หน่วย ในแต่ละครั้ง ทำให้นักลงทุนไม่สามารถรู้ได้ว่า Dividend เป็นเท่าไร 

    แล้วจะรู้ Dividend Yield ได้อย่างไร ? 

    วิธีการคาดการ Dividend Yield คือ นำส่วนปันผลรวมย้อนหลัง (…

    Read More
    Business Lifestyle

    อัพเดท 7 เทรนด์สีปี 2023 สีไหนมาแรง แต่งบ้านรับปีเถาะกันเถอะ 

    post-image

    สำหรับคนรักบ้าน รักการตกแต่งบ้าน วันนี้เรามาจะอัพเดทเทรนด์สีปี 2023 ซึ่งสีเหล่านี้ได้ถูกรวบรวมจากเทรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก และทางนิตยสาร Creative Thailand ได้รวบรวมจัดทำขึ้นทุกปี เพื่อส่งเสริมและผลักดันเศรษฐกิจไทย ภายใต้ CEA หรือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) 

    เราจึงได้นำมาอัพเดทเพื่อเป็นแนวไอเดียให้ใครที่กำลังต้องการจะจัดแต่งบ้านต้อนรับปีใหม่ ซึ่งตรงกับ ปีเถาะ หรือ ปีกระต่าย และเทรนด์สีเหล่านี้ ยังเหมาะต่อการไปใช้กับสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ของใช้ เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมไปถึงใช้เพื่อสื่อโฆษณาสินค้า การบริการ และงาน Events ต่าง ๆ อีกด้วย มีสีอะไรให้เพื่อน ๆ ได้นำไปใช้เสริมสร้างความปังและทันสมัยกันบ้าง ตามมาเลยค่ะ 

    Elfin Yellow : สีเหลืองอ่อน – ครีม 

    สีเหลืองอ่อนไปจนถึงเกือบออกสีครีม โทนสีที่บ่งบอกถึงความเป็น Minimalism ที่ยังคงได้รับความนิยมในการตกแต่งบ้านเสมอมา เพราะให้ความรู้สึกเรียบง่าย อบอุ่น อ่อนโยน สบายตา นอกจากนี้ โทนสีเหลืองอ่อนยังเป็นสีแห่งการรีเซ็ต การเริ่มหรือสร้างสิ่งใหม่ ๆ และยังเป็นสื่อถึงการก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง 

    การตกแต่งบ้านด้วยสีหลักอย่างโทนสีเหลืองอ่อนจะให้สไตล์บ้านมินิมอล แต่ถ้าต้องการเติมความสดใส และความมีชีวิตชีวาให้กับบ้าน อาจใช้เครื่องตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์สีเหลือง ควบคู่ไปกับสีหลักของบ้านด้วยโทนสีเรียบ ๆ แทน ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในช่วงซัมเมอร์สดใส 

    Lime Green : สีเขียวมะนาว 

    โดยปกติ สีเขียว มักจะทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติของสิ่งแวดล้อม และมักจะเป็นที่นิยมในการนำมาใช้ตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะ บ้าน และ สำนักงาน เพราะจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสงบ แต่สำหรับเทรนด์สีปี 2566 ที่ต้องการเพิ่มความล้ำสมัยมากขึ้น ทำให้เฉดสีเขียวมะนาวเป็นสีที่จะมาแรงแซงทางโค้งอีกสีหนึ่งเลยทีเดียว เพราะสีเขียวมะนาวจะสื่อถึงความสดใสและมีชีวิตชีวาของคนยุค Gen Z ได้เป็นอย่างดี จึงถูกนำมาใช้บนโลกดิจิทัลมากขึ้น 

    แม้ว่าสีเขียวมะนาวจะดูสดและจัดจ้านจนอาจไม่ไหวสำหรับการทาสีผนังบ้าน แต่สามารถนำมาใช้กับของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเพิ่มความสดใสและความโดดเด่นให้กับบ้านมากขึ้น หรือจะลดเฉดลงอีกหน่อยด้วยสีเขียวแอปเปิลก็นับว่าเก๋กู๊ดเลยทีเดียว 

    Blog Business Lifestyle Politics

    วิธีเช็คเบอร์โทรศัพท์ มิจฉาชีพโทรหาเรา หรือใครโทรมากันแน่ 

    post-image

    ฮัลโหลวว! นั่นใครโทรมา มิจฉาชีพหรือเปล่าคะ? แต่คงไม่มีมิจฉาชีพคนไหนยอมรับแน่นอน แล้วเราจะมีวิธีไหนเช็คเบอร์ใครโทรมา หรือส่ง SMS พร้อมแนบลิงก์ที่ถ้าเผลอไปกด โดนดูดเงินสูญหมดบัญชี เราจึงต้องมีวิธีป้องกันโดนมิจฉาชีพหลอก ยิ่งช่วงนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาด แถมตำรวจก็ยังทำอะไรไม่ได้ เป็นปัญหาสังคมและมีผู้เสียหายไปแล้วนับไม่ถ้วน เมื่อเราพึ่งใครไม่ได้ เราก็ต้องพึ่งตนเองก่อนในเบื้องต้น ด้วยวิธีต่อไปนี้ค่ะ 

    Google 

    เมื่อมีเบอร์แปลก ๆ โทรมาหา ไม่ว่าจะก่อนรับสายหรือหลังสายไปแล้ว แต่อยากรู้ว่าใช่เป็นเบอร์มิจฉาชีพหลอกโทรหาเราหรือไม่ ให้นำเบอร์นั้นไปค้นหากับเว็บไซต์กูเกิล หากเป็นหมายเลของมิจฉาชีพที่มีประวัติหลอกลวง เราจะพบข้อมูลที่ผู้เสียหายได้โพสเตือนภัยผ่านบนเว็บไซต์ 

    Facebook 

    เฟซบุคเป็นอีกช่องทางที่สามารถค้นหาเบอร์โทรศัพท์ได้เช่นกัน โดยการนำเบอร์แปลก ๆ ที่ได้โทรหาเราไปใส่ช่องค้นหา (search) หากเป็นเบอร์ที่เคยมีประวัติหลอกลวง เราจะสามารถพบตามกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มขายของ กลุ่มเตือนภัย ฯลฯ มีผู้เสียหายได้โพสข้อความเตือนภัย พร้อมระบุหมายเลขโทรศัพท์  

    Line 

    อีกช่องทางโซเชียลมีเดียที่ใช้สืบหาเบอร์มิจฉาชีพได้เช่นกัน โดยการนำเบอร์แปลกที่โทรหาเราไปใส่ในช่องเพิ่มเพื่อน (Add Friend) ผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะสามารถค้นหาเจอได้เฉพาะที่หมายเลขลงทะเบียนไลน์เท่านั้น หากแอดด้วยเบอร์โทรฯ แล้ว ไม่พบเจอเป็นผู้ใช้แอปไลน์ปกติทั่วไป ก็อาจมีความเป็นไปได้ว่าเป็นมิจฉาชีพ หรืออาจไม่ใช่ก็ได้ 

    Whoscall 

    Whoscall คือ แอปพลิเคชัน ที่รวบรวมฐานข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ไว้เป็นพันล้านเบอร์ โดยมีผู้โหลดใช้แอป whoscall แล้วมากกว่า 70 ล้านครั้ง โดยแอปฯ นี้ จะมีการระบุหมายเลขโทรศัทพ์ของหน่วยงานต่าง ๆ เบอร์ขายสินเชื่อ เบอร์ขายประกัน รวมไปถึงเบอร์มิจฉาชีพ เมื่อไรที่เบอร์เหล่านี้โทรมา แอปฯ จะดึงข้อมูลมาแจ้งเตือนบนหน้าจอมือถือของเราทันที ทำให้เราสามารถเลือกที่จะรับสายหรือไม่ก็ได้  หรือทำการบล็อกเบอร์นั้นไปเลย ยิ่งไปกว่านั้น whoscall มีฟังก์ชันให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มข้อมูลเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ว่าเป็นใคร เช่น เบอร์ขนส่ง เบอร์มิจฉาชีพ เป็นต้น ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแอปฯ Whoscall…

    Read More