สำหรับคนรักบ้าน รักการตกแต่งบ้าน วันนี้เรามาจะอัพเดทเทรนด์สีปี 2023 ซึ่งสีเหล่านี้ได้ถูกรวบรวมจากเทรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก และทางนิตยสาร Creative Thailand ได้รวบรวมจัดทำขึ้นทุกปี เพื่อส่งเสริมและผลักดันเศรษฐกิจไทย ภายใต้ CEA หรือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
เราจึงได้นำมาอัพเดทเพื่อเป็นแนวไอเดียให้ใครที่กำลังต้องการจะจัดแต่งบ้านต้อนรับปีใหม่ ซึ่งตรงกับ ปีเถาะ หรือ ปีกระต่าย และเทรนด์สีเหล่านี้ ยังเหมาะต่อการไปใช้กับสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ของใช้ เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมไปถึงใช้เพื่อสื่อโฆษณาสินค้า การบริการ และงาน Events ต่าง ๆ อีกด้วย มีสีอะไรให้เพื่อน ๆ ได้นำไปใช้เสริมสร้างความปังและทันสมัยกันบ้าง ตามมาเลยค่ะ

Elfin Yellow : สีเหลืองอ่อน – ครีม
สีเหลืองอ่อนไปจนถึงเกือบออกสีครีม โทนสีที่บ่งบอกถึงความเป็น Minimalism ที่ยังคงได้รับความนิยมในการตกแต่งบ้านเสมอมา เพราะให้ความรู้สึกเรียบง่าย อบอุ่น อ่อนโยน สบายตา นอกจากนี้ โทนสีเหลืองอ่อนยังเป็นสีแห่งการรีเซ็ต การเริ่มหรือสร้างสิ่งใหม่ ๆ และยังเป็นสื่อถึงการก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง
การตกแต่งบ้านด้วยสีหลักอย่างโทนสีเหลืองอ่อนจะให้สไตล์บ้านมินิมอล แต่ถ้าต้องการเติมความสดใส และความมีชีวิตชีวาให้กับบ้าน อาจใช้เครื่องตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์สีเหลือง ควบคู่ไปกับสีหลักของบ้านด้วยโทนสีเรียบ ๆ แทน ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในช่วงซัมเมอร์สดใส

Lime Green : สีเขียวมะนาว
โดยปกติ สีเขียว มักจะทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติของสิ่งแวดล้อม และมักจะเป็นที่นิยมในการนำมาใช้ตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะ บ้าน และ สำนักงาน เพราะจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสงบ แต่สำหรับเทรนด์สีปี 2566 ที่ต้องการเพิ่มความล้ำสมัยมากขึ้น ทำให้เฉดสีเขียวมะนาวเป็นสีที่จะมาแรงแซงทางโค้งอีกสีหนึ่งเลยทีเดียว เพราะสีเขียวมะนาวจะสื่อถึงความสดใสและมีชีวิตชีวาของคนยุค Gen Z ได้เป็นอย่างดี จึงถูกนำมาใช้บนโลกดิจิทัลมากขึ้น
แม้ว่าสีเขียวมะนาวจะดูสดและจัดจ้านจนอาจไม่ไหวสำหรับการทาสีผนังบ้าน แต่สามารถนำมาใช้กับของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเพิ่มความสดใสและความโดดเด่นให้กับบ้านมากขึ้น หรือจะลดเฉดลงอีกหน่อยด้วยสีเขียวแอปเปิลก็นับว่าเก๋กู๊ดเลยทีเดียว

Deep Lake : สีเขียวอมฟ้า
ความโดดเด่นของสีเขียวอมฟ้านี้ คือมีเฉดสีน้ำตาลเอิร์ทโทนมาผสมอยู่ด้วย ทำให้สีออกมาคล้ายสีน้ำทะเล และยังเป็นสีที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย และสามารถนำไปใช้ได้กับทุกกิจกรรม เนื่องจากเป็นเสมือนสีของทะเล ที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจ ให้รู้สึกผ่อนคลาย สงบ แต่ยังคงมีความจริงจัง ลึกลับน่าค้นหา อีกทั้งยังให้ความหรูหราในเวลา
สี Deep Lake หรือ สีเขียวน้ำทะเลนี้ จะเป็นอีกสีที่เชื่อว่าจะมีการนำมาใช้ในวงการแฟชั่น รวมไปถึงสไตล์การตกแต่งบ้าน เพราะแฟชั่นปี 2566 จะมุ่งเน้นไปทางหลักของธรรมชาติ ซึ่งสีเขียวอมฟ้านี้นับว่าตอบโจทย์และสามารถนำไปจับคู่ได้อีกหลายสี ให้ความรู้สึกที่หลากหลายมากขึ้น เช่น จับคู่กับสีทอง จะให้ความเป็นธรรมชาติ เย็นสบายตา แต่ดูหรูแบบ Luxury Style หรือจับคู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่ให้ความลุคความเรียบง่าย เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่ถ้าอยากเพิ่มความสดใส ให้จับคู่กับโทนสีอ่อน เป็นต้น

Golden Apricot : สีส้มแอปริคอต
สีแอปริคอต โทนสีสุดฮิต นิยมกันมากสำหรับแต่งบ้านยุค 80s สไตล์ Retro เพราะไม่ใช่สีส้มสดเกินไป แต่เป็นส้มอ่อน ๆ ที่ให้ความสดใส อ่อนหวาน แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติก จึงให้ความรู้สึกที่หลากหลาย ยิ่งใช้ควบคู่กับโทนสีน้ำตาลเข้ม จะยิ่งให้ความรู้สึกสไตล์เรโทร ยุค 80-90 มากขึ้น
สีส้มแอปริคอตเป็นอีกสีที่นิยมในการนำมาใช้กับสินค้าและอุตสาหกรรม ทั้งการตกแต่ง การออกแบบ เครื่องสำอางค์ และสินค้าแฟชั่นต่าง ๆ อีกด้วย แต่ถ้าใครต้องการจะใช้สีแอปริคอต แต่อยากได้ลุคความสนุกและอิสระมากขึ้น ให้แทรกด้วยสีส้มสด ก็จะช่วยเพิ่มลูกเล่นได้เช่นกัน

Scarlet Sage : สีแดงก่ำ
สีแดง เอกลักษณ์ของความร้อนแรง แต่ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มแรงดึงดูด ทำให้มักถูกนำไปใช้กับงานออกแบบ งานศิลปะ รวมถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเครื่องสำอาง สำหรับปีเถาะ 2566 นี้ สีแดงก่ำ จะสื่อถืงภูมิปัญญา และความล้ำสมัย ทำให้หลายแบรนด์นำสีแดงมาใช้กับตัวสินค้าต่าง ๆ แต่สำหรับในส่วนของการออกแบบภายใน และภายนอกอาคาร การจะนำสีแดงมาใช้ทั้งหลัง อาจทำให้บ้านดูร้อนแรงเกินไป ดังนั้น หากใช้อุปกรณ์ เครื่องตกแต่งบ้านสีแดงเพื่อแต่งแต้มตัดกับสีผนังบ้านโทนเย็น หรือเฉดไล่เฉดสีใกล้เคียงกัน ก็จะเพิ่มลูกเล่น และทำให้บ้านดูโดดเด่น สวยไม่ซ้ำใครเลยทีเดียว

Phlox : สีม่วงเข้ม
สีม่วงเข้ม เทรนด์สีมาแรงที่ถูกจับตามอง เพราะ Pantone ปี 2023 คือ Digital Lavender หรือสีม่วงลาเวนเดอร์ ที่จะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สงบ แต่คงไว้ด้วยความสดใสร่าเริง ในขณะที่สีม่วงเข้ม จะให้ความรู้สึกสงบนิ่งกว่า มีความลึกลับ น่าค้นหา และแฝงไปด้วยความหรูหรา อีกทั้งสีม่วงเข้มยังถูกจัดให้เป็นสีด้านดิจิทัล ทีเชื่อมโยงกับ Metaverse จึงมักถูกหยิบมาใช้กับงานศิลปะแบบเสมือนจริงบนโลกดิจิทัล
สำหรับการใช้สีม่วงตกแต่งบ้าน จะช่วยให้บ้านดูเป็นสไตล์วินเทจ สงบ โรแมนติก กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และให้กลิ่นอายความหรูหรา น่าหลงไหล ยิ่งใช้คู่กับโทนสีเข้ม ยิ่งทำให้ดูโมเดิร์น เช่น สีม่วง-สีดำ เป็นต้น หรือปรับเปลี่ยนเป็นลุคน่ารัก สดใส เช่น สีม่วง-สีชมพู หรือ ใช้สีม่วงอมชมพูไปเลย เหมาะกับห้องสาวหวาน แต่ไม่เลี่ยนเกินไป ทำให้ดูมีสไตล์มากขึ้น

Moonless Night : สีดำเทา
สีดำเทา เป็นสีดำที่ไม่ดำมืดสนิทจนเกินไป ทำให้ไม่ดูทึบ แต่ดูเท่ และคูลสุด ๆ เป็นสีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะสามารถแมทช์ได้ทุกสไตล์ และไม่ได้จำกัดเพียงเพศชายเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ผู้หญิงก็ยังนิยมใช้สีดำเทาในการตกแต่งห้อง หรือแม้แต่สไตล์การแต่งตัว ด้วยสีดำเทาให้ความเท่ของสีดำ ที่ไม่ดูมืดมนจนเกินไป แต่มีสีเทามาเบรคทำให้ดูซอฟ์ท และคูลมากกว่า อีกทั้งสีดำเทายังสื่อถึงความทรงพลัง ตรงไปตรงมา ชัดเจน แต่ก็แฝงไปด้วยความลึกลับ เย้ายวน และหรูหราเช่นเดียวกัน ให้ความหมายถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ทำให้สีดำเทาจะเป็นอีกเทรนด์สีมาแรงในปี 2023 เพราะเข้ากับคอนเซ็ปต์ของการเริ่มต้นใหม่ โดยคาดว่าจะถูกนำไปใช้กับงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ รวมไปถึงสิทธิความเท่าเทียมทางเพศที่หลากหลายในสังคม
ในแง่ของการแต่งบ้านด้วยสี Moonless Night นั้นค่อนข้างหาวัสดุเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์การแต่งบ้านได้ง่ายมาก ๆ เพราะสีเทาดำจับคู่สีได้แทบทุกสี ไม่ว่าจะผนังบ้านสีเทา ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องนอนสีดำ หรือดรอปความเข้มด้วย ผนังบ้านสีขาว ตัดด้วยอุปกรณ์ เครื่องตกแต่งบ้านสีเทาดำ ก็จะช่วยให้บ้านดูเท่แต่อบอุ่น และมีความโมเดิร์น ไม่ตกเทรนด์ โดยแทบไม่ต้องเติมแต่งอะไรมากมาย