Health Blog Lifestyle

6 วิธีดูแลตัวเองให้สุขภาพดี ไม่ยากอย่างที่คิด 

ทุกวันนี้ มีผู้คนมากมายที่เผชิญกับปัญหาสุขภาพ เนื่องจากชีวิตที่เร่งรีบ และการทำงานจนลืมดูแลสุขภาพของตนเอง และบางคนก็คิดว่าขั้นตอนการดูแลตัวเองนั้นยุ่งยาก จึงละเลยที่จะใส่ใจ ยิ่งปัจจุบันนี้มีโรคระบาดมากขึ้น ทั้งโรคอุบัติใหม่ และโรคดั้งเดิมที่คอยหาโอกาสกลับมาโจมตีมนุษย์อยู่เรื่อยๆ ดังนั้น การมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงจึงสำคัญมาก เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการรับมือ เรามาดูแลสุขภาพกันถอะ ทำได้ง่าย..ไม่ยากเลย 

1. ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

สิ่งแรกและเป็นสิ่งสำคัญ คือ อาหาร เพราะอาหารเป็นปัจจัยข้อแรกในปัจจัย 4 ของการดำรงชีวิตเราทุกคน และอาหารก็เป็นแหล่งพลังงานที่ดี ให้ร่างกายมีกำลังและมีความพร้อมในการทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นอาหารก็เป็นอีกปัจจัยในการดูแลสุขภาพ ด้วยการดูแลจากภายในสู่ภายนอก เราจึงควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่ โดยทานในแต่ละวันให้หลากหลายและพอดีตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ซึ่งเน้นโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต แล้วตามด้วยผัก ผลไม้ เสริมด้วยเกลือแร่และวิตามินต่างๆ แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคลอเรสเตอรอลและไขมันสูง 

แต่ชีวิตคนเรามันต้องมีสีสันและการไหลตามใจกันบ้าง จึงอาจตามใจปากกันบ้างกับอาหารที่อาจไม่ได้มีประโยชน์หรือดีกับสุขภาพมากนัก แต่ทานในปริมาณที่พอดี อย่างฉลองกับเพื่อนด้วยการทานปิ้งย่างบ้างในบางครั้ง กินขนมจำพวกเบเกอรี่บ้างเป็นบางหน ชานมไข่มุกแก้วเล็กๆสักเดือนละ 1-2 แก้ว เพื่อความสุขเล็กๆน้อยๆ เป็นการเติมเต็มอารมณ์ดีได้โดยไม่เสียสุขภาพ แต่ถ้าคุณกระหน่ำทานมากเกินไป ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพและโรคต่างๆก็จะตามมาแน่นอน 

2. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย 

ทุกคนรู้ดีว่าการดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ต่อพื้นฐานการมีสุขภาพดี และน้ำก็เป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้ในแต่ละวัน ซึ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าอาหารเลย แต่มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่กลับมองข้ามและไม่ได้ใส่ใจในการดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน แต่การดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย วันละ 8-10 แก้ว จะดีต่อสุขภาพ สำหรับใครที่มักจะดื่มน้ำน้อย หรือมักจะลืมดื่มน้ำ ลองหาแก้วหรือขวดน้ำสวยๆ ใส่น้ำแล้ววางไว้ใกล้ตัวเสมอ ให้สามารถมองเห็นง่ายๆ เพื่อจะได้เตือนให้หยิบน้ำขึ้นมาดื่มบ่อยๆ และตั้งเป้าหมายปริมาณของน้ำที่จะดื่มให้หมดภายในหนึ่งวัน ก็จะช่วยให้ดื่มน้ำได้มากขึ้น 

น้ำเปล่า นอกจากจะช่วยให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าแล้ว น้ำ ยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อระบบการทำงานภายในร่างกายของคนเรา ทั้งระบบการย่อยอาหาร การไหลเวียนของเลือด การเผาผลาญ ระบบขับถ่าย หากดื่มน้ำน้อยเกินไป เลือดจะมีความเข้มข้นมากจนหนืด ไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยและเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ นอกจากนั้น น้ำ ยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ผิวใส ผมสวย และ การดื่มน้ำ ช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย 

3. ออกกำลังกาย

ทานอาหารแล้ว ก็ต้องออกกำลังกายกันหน่อย ยิ่งปัจจุบันมีหลากหลายกิจกรรมที่ถือว่าเป็นการออกกำลังกายได้เช่นกัน โดยไม่จำเป็นต้องเล่นกีฬาหนักๆ โดยอาจเลือกการออกกำลังกาย หรือสันทนาการเบาๆ ตามความชอบ ไลฟ์สไตล์ และเหมาะสมกับสภาพร่างกายของตัวเอง จะทำให้ออกกำลังกายอย่างมีความสุข ไม่เบื่อเร็ว และออกกำลังกายได้นานขึ้น เช่น การเต้นแอโรบิค การเล่นโยคะ การเดินเร็ว เซิร์ฟ ปั่นจักรยาน บอดีเวท หรือแม้แต่การวิ่งเล่นไล่จับกับสัตว์เลี้ยง ก็เป็นการออกกำลังกายที่ส่งผลดีต่อสุขภาพเช่นกัน 

การออกกำลังกายที่ให้ผลดี คือการได้ทำเป็นประจำ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นรูปแบบเดิมๆทุกวัน อาจปรับเปลี่ยนกิจกรรมแต่ละวันเพื่อไม่ให้เกิดความเบื่อหน่าย แต่ถ้าต้องการออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬาและต้องการให้เกิดความชำนาญ ก็อาจต้องฝึกฝนและเล่นสม่ำเสมอ ควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยวันละ 30 นาที และ 2-3 ครั้ง / สัปดาห์ การออกกำลังกายไม่ว่าในรูปแบบไหนก็ตาม นอกจากจะช่วยให้มีสุขภาพดี ยังช่วยลดน้ำหนักอีกด้วย 

4. พักผ่อนให้เพียงพอ

การได้นอนหลับอย่างเพียงพอ เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดที่เราสามารถทำได้ในการดูแลตัวเอง เพราะการได้นอนหลับ อวัยวะทุกส่วนของร่างกายได้หยุดพัก หรือทำงานน้อยลง และเป็นช่วงสำคัญที่ระบบภูมิต้านทานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งร่างกายยังได้โอกาสในการชาร์จพลังงานเต็มที่ เหมือนโทรศัพท์ที่เราชาร์จจนแบตเต็ม เมื่อพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ ร่างกายก็รู้สึกสดชื่นเมื่อตื่นขึ้นมา และมีความพร้อมที่จะทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างไม่เหนื่อยล้า โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้านอน คือ 22.00 – 02.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้หลั่งโกรทฮอร์โมน เพื่อฟื้นฟูระบบต่างๆในร่างกายได้เต็มที่ และยังเป็นช่วงเวลาที่จะทำให้การนอนมีคุณภาพและประสิทธิภาพที่สุด 

5. เพิ่มพลังบวกให้ตัวเองเสมอ

ทัศนคติด้านลบ หรือความคิดในแง่ลบอยู่เสมอ และการจมอยู่กับความวิตกกังวล จดจ่อแต่กับปัญหาใดปัญหาหนึ่งมากเกินไป เป็นสาเหตุของความเครียดสะสมและความทุกข์ จนทำให้เป็นคนที่คิดแต่ทิศทางที่แย่ลง จนอาจทำให้ไม่มีความสุขในชีวิต ส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกาย ดังนั้นควรปรับมุมมองปัญหา ฝึกฝนให้ตัวเองมองโลกในแง่ดี ยอมรับข้อบกพร่องของตนเองและทำความเข้าใจอย่างมีสติ แบบไม่เข้าข้างตนเอง และปรับเปลี่ยนให้มันดีขึ้น หรือถ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่สามารถมองข้ามได้ ก็ลองปล่อยผ่านปล่อยวางเสียบ้าง 

การฝึกให้ตัวเองมีพลังบวก เริ่มต้นด้วยการมองโลกบนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง ปรับเปลี่ยนทัศนคติให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น มองหาข้อดีจากสิ่งต่างๆให้มากกว่าข้อเสีย และพยายามพาตัวเองไปในที่รายล้อมไปด้วยความคิดเชิงบวก จะช่วยให้เราได้รับพลังบวกและทัศนคติเชิงบวกไปด้วย เพราะเมื่อเรามีพลังบวก จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจให้ดีขึ้น มีอารมณ์ดี กังวลน้อยลง ยิ้มได้ง่ายขึ้น มีความสุขมากขึ้น สุขภาพก็ดีขึ้นทวีคูณไปด้วย 

6. ตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ 

การตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยให้เรารู้ทันต่อปัจจัยเสี่ยงของสุขภาพตนเอง และสามารถดูแลป้องกันไปในทิศทางที่เหมาะสม ต่อการป้องกันโรคต่างๆที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเราได้ เรียกได้ว่าเป็นการป้องกันแต่เนิ่นๆ ดีกว่าแก้ไขทีหลังที่อาจแก้ไขไม่ทันก็ได้ และถ้าหากมีโรคร้ายแอบซ่อนอยู่ จะได้ตรวจพบในระยะแรกๆ ทำให้สามารถรักษาได้ทัน และป้องกันภาวะแทรกซ้อนหรือความรุนแรงของโรคได้ 

You may also like

Business

รวมกองทุนปันผลที่น่าสนใจ กองทุนตัวไหนน่าจะเหมาะกับเรา

post-image

ใครที่เริ่มสนใจหรือมองหาการลงทุนเพื่ออนาคต แต่ไม่รู้ว่าจะลงทุนกับกองทุนไหนดี เพราะไม่เคยทำมาก่อน เราจะมาพาทำความรู้จักกับกองทุนปันผลในตลาดหุ้นหรือธีมที่นับว่าแข็งแกร่ง น่าสนใจที่จะลงทุน โดยจะเลือกลงทุนรายตัวหรือจัดเป็นพอร์ตให้กระจายตัวดี 

หุ้นปันผลกับกองทุนปันผลต่างกันอย่างไร 

หุ้นปันผลกับกองทุนปันผลต่างกันอย่างไร

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าระหว่าง หุ้นปันผลคืออะไร และกองทุนปันผลคืออะไร จะได้รู้ว่าเหมือนหรือต่างกัน  หุ้นปันผล เป็นหุ้นประเภทหนึ่งที่นักลงทุนต้องการจะมีเก็บไว้อยู่ในพอร์ตลงทุน เพื่อให้ได้เงินปันผลส่วนนี้เป็นรายได้เสริม หรืออาจกลายเป็นรายได้หลักหลังจากที่เกษียณไปแล้ว แต่บางคนอาจต้องการมีหุ้นปันผลเพื่อลดความเสี่ยง ในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน หรือจะทำพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ กองทุนปันผล คือ กองทุนที่นำกำไรที่ได้จากการลงทุนมาแจกจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนนั่นเอง โดยปัจจุบันบริษัทจะนิยมจ่ายเงินปันผล 2 แบบ ด้วยกัน คือ 

1. จ่ายเป็นเงินสด หรือ Cash Dividend คือรูปแบบที่บริษัทส่วนใหญ่นิยมกันมาก โดยมีเงินปันผลที่ได้มาจากกำไรสะสมของบริษัท โดยจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานปกติ ข้อดี คือ นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผล โดยที่การลงทุนจะยังดำเนินต่อไป ส่วนข้อเสีย คือ เงินปันผลที่ได้อาจไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยนัก เนื่องจากมีการหักภาษีเงินปันผล 10% 

2. จ่ายเป็นหุ้น หรือ Equity Stock Dividend คือ การเพิ่มทุนเป็นหุ้นสามัญ แล้วจึงจะนำมาจ่ายปันผล โดยกำหนดจ่ายตามอัตราส่วนที่กำหนด เช่น จ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นปันผลในอัตราส่วน 10 : 1 คือ ผู้ถือหุ้นเดิมจะได้รับหุ้นปันผล 1 หุ้น ในทุก ๆ หุ้นเดิมที่ถืออยู่จำนวน 10 หุ้น หากถือหุ้นสามัญ 1,000 หุ้น จะได้รับหุ้นปันผล 100 หุ้น และถ้าถือหุ้นสามัญ 10,000 หุ้น จะได้รับหุ้นปันผล 1,000 หุ้น เป็นต้น 

โดยปกติหุ้นปันผลจะมีอัตราเงินปันผลหรือ Dividend Yield โดยคำนวณมาจากเงินปันผลต่อหุ้น / ราคา แต่ในส่วนกองทุนปันผลจะบอกเพียงกองทุนปันผลคิดเป็นกี่บาท / หน่วย ในแต่ละครั้ง ทำให้นักลงทุนไม่สามารถรู้ได้ว่า Dividend เป็นเท่าไร 

แล้วจะรู้ Dividend Yield ได้อย่างไร ? 

วิธีการคาดการ Dividend Yield คือ นำส่วนปันผลรวมย้อนหลัง (…

Read More
Business Lifestyle

อัพเดท 7 เทรนด์สีปี 2023 สีไหนมาแรง แต่งบ้านรับปีเถาะกันเถอะ 

post-image

สำหรับคนรักบ้าน รักการตกแต่งบ้าน วันนี้เรามาจะอัพเดทเทรนด์สีปี 2023 ซึ่งสีเหล่านี้ได้ถูกรวบรวมจากเทรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก และทางนิตยสาร Creative Thailand ได้รวบรวมจัดทำขึ้นทุกปี เพื่อส่งเสริมและผลักดันเศรษฐกิจไทย ภายใต้ CEA หรือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) 

เราจึงได้นำมาอัพเดทเพื่อเป็นแนวไอเดียให้ใครที่กำลังต้องการจะจัดแต่งบ้านต้อนรับปีใหม่ ซึ่งตรงกับ ปีเถาะ หรือ ปีกระต่าย และเทรนด์สีเหล่านี้ ยังเหมาะต่อการไปใช้กับสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ของใช้ เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมไปถึงใช้เพื่อสื่อโฆษณาสินค้า การบริการ และงาน Events ต่าง ๆ อีกด้วย มีสีอะไรให้เพื่อน ๆ ได้นำไปใช้เสริมสร้างความปังและทันสมัยกันบ้าง ตามมาเลยค่ะ 

Elfin Yellow : สีเหลืองอ่อน – ครีม 

สีเหลืองอ่อนไปจนถึงเกือบออกสีครีม โทนสีที่บ่งบอกถึงความเป็น Minimalism ที่ยังคงได้รับความนิยมในการตกแต่งบ้านเสมอมา เพราะให้ความรู้สึกเรียบง่าย อบอุ่น อ่อนโยน สบายตา นอกจากนี้ โทนสีเหลืองอ่อนยังเป็นสีแห่งการรีเซ็ต การเริ่มหรือสร้างสิ่งใหม่ ๆ และยังเป็นสื่อถึงการก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง 

การตกแต่งบ้านด้วยสีหลักอย่างโทนสีเหลืองอ่อนจะให้สไตล์บ้านมินิมอล แต่ถ้าต้องการเติมความสดใส และความมีชีวิตชีวาให้กับบ้าน อาจใช้เครื่องตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์สีเหลือง ควบคู่ไปกับสีหลักของบ้านด้วยโทนสีเรียบ ๆ แทน ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในช่วงซัมเมอร์สดใส 

Lime Green : สีเขียวมะนาว 

โดยปกติ สีเขียว มักจะทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติของสิ่งแวดล้อม และมักจะเป็นที่นิยมในการนำมาใช้ตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะ บ้าน และ สำนักงาน เพราะจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสงบ แต่สำหรับเทรนด์สีปี 2566 ที่ต้องการเพิ่มความล้ำสมัยมากขึ้น ทำให้เฉดสีเขียวมะนาวเป็นสีที่จะมาแรงแซงทางโค้งอีกสีหนึ่งเลยทีเดียว เพราะสีเขียวมะนาวจะสื่อถึงความสดใสและมีชีวิตชีวาของคนยุค Gen Z ได้เป็นอย่างดี จึงถูกนำมาใช้บนโลกดิจิทัลมากขึ้น 

แม้ว่าสีเขียวมะนาวจะดูสดและจัดจ้านจนอาจไม่ไหวสำหรับการทาสีผนังบ้าน แต่สามารถนำมาใช้กับของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเพิ่มความสดใสและความโดดเด่นให้กับบ้านมากขึ้น หรือจะลดเฉดลงอีกหน่อยด้วยสีเขียวแอปเปิลก็นับว่าเก๋กู๊ดเลยทีเดียว 

Blog Business Lifestyle Politics

วิธีเช็คเบอร์โทรศัพท์ มิจฉาชีพโทรหาเรา หรือใครโทรมากันแน่ 

post-image

ฮัลโหลวว! นั่นใครโทรมา มิจฉาชีพหรือเปล่าคะ? แต่คงไม่มีมิจฉาชีพคนไหนยอมรับแน่นอน แล้วเราจะมีวิธีไหนเช็คเบอร์ใครโทรมา หรือส่ง SMS พร้อมแนบลิงก์ที่ถ้าเผลอไปกด โดนดูดเงินสูญหมดบัญชี เราจึงต้องมีวิธีป้องกันโดนมิจฉาชีพหลอก ยิ่งช่วงนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาด แถมตำรวจก็ยังทำอะไรไม่ได้ เป็นปัญหาสังคมและมีผู้เสียหายไปแล้วนับไม่ถ้วน เมื่อเราพึ่งใครไม่ได้ เราก็ต้องพึ่งตนเองก่อนในเบื้องต้น ด้วยวิธีต่อไปนี้ค่ะ 

Google 

เมื่อมีเบอร์แปลก ๆ โทรมาหา ไม่ว่าจะก่อนรับสายหรือหลังสายไปแล้ว แต่อยากรู้ว่าใช่เป็นเบอร์มิจฉาชีพหลอกโทรหาเราหรือไม่ ให้นำเบอร์นั้นไปค้นหากับเว็บไซต์กูเกิล หากเป็นหมายเลของมิจฉาชีพที่มีประวัติหลอกลวง เราจะพบข้อมูลที่ผู้เสียหายได้โพสเตือนภัยผ่านบนเว็บไซต์ 

Facebook 

เฟซบุคเป็นอีกช่องทางที่สามารถค้นหาเบอร์โทรศัพท์ได้เช่นกัน โดยการนำเบอร์แปลก ๆ ที่ได้โทรหาเราไปใส่ช่องค้นหา (search) หากเป็นเบอร์ที่เคยมีประวัติหลอกลวง เราจะสามารถพบตามกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มขายของ กลุ่มเตือนภัย ฯลฯ มีผู้เสียหายได้โพสข้อความเตือนภัย พร้อมระบุหมายเลขโทรศัพท์  

Line 

อีกช่องทางโซเชียลมีเดียที่ใช้สืบหาเบอร์มิจฉาชีพได้เช่นกัน โดยการนำเบอร์แปลกที่โทรหาเราไปใส่ในช่องเพิ่มเพื่อน (Add Friend) ผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะสามารถค้นหาเจอได้เฉพาะที่หมายเลขลงทะเบียนไลน์เท่านั้น หากแอดด้วยเบอร์โทรฯ แล้ว ไม่พบเจอเป็นผู้ใช้แอปไลน์ปกติทั่วไป ก็อาจมีความเป็นไปได้ว่าเป็นมิจฉาชีพ หรืออาจไม่ใช่ก็ได้ 

Whoscall 

Whoscall คือ แอปพลิเคชัน ที่รวบรวมฐานข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ไว้เป็นพันล้านเบอร์ โดยมีผู้โหลดใช้แอป whoscall แล้วมากกว่า 70 ล้านครั้ง โดยแอปฯ นี้ จะมีการระบุหมายเลขโทรศัทพ์ของหน่วยงานต่าง ๆ เบอร์ขายสินเชื่อ เบอร์ขายประกัน รวมไปถึงเบอร์มิจฉาชีพ เมื่อไรที่เบอร์เหล่านี้โทรมา แอปฯ จะดึงข้อมูลมาแจ้งเตือนบนหน้าจอมือถือของเราทันที ทำให้เราสามารถเลือกที่จะรับสายหรือไม่ก็ได้  หรือทำการบล็อกเบอร์นั้นไปเลย ยิ่งไปกว่านั้น whoscall มีฟังก์ชันให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มข้อมูลเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ว่าเป็นใคร เช่น เบอร์ขนส่ง เบอร์มิจฉาชีพ เป็นต้น ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแอปฯ Whoscall…

Read More
Lifestyle Travel

ชี้พิกัด 7 บ้านกระจกสวย ที่น่าไปเช็คอินสักครั้งในชีวิต

post-image

วันหยุดยาวทั้งทีหาที่เที่ยวฮีลใจกันดีกว่า มัดรวมพิกัด ที่เที่ยว บ้านกระจกใส วิวสวย นอนมองฟิน ๆ เหมือนไม่มีอะไรมากั้นระหว่างเรา ให้ฟีลเหมือนเที่ยวต่างประเทศ มีที่ไหนบ้างไปดูกัน แล้วจัดกระเป๋ากันเล๊ยยย! 

Kissing Stars Glamping  (บ้านแม่ลาย จ.เชียงใหม่) 

kissing stars glamping บ้านแม่ลาย เชียงใหม่


เริ่มจากภาคเหนือของไทยกันก่อนเลย บ้านทรงกล่องสี่เหลี่ยมบนเนินเขา ติดกระจกใสมองเห็นวิวด้านนอก ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังโดนธรรมชาติโอบอุ้ม ด้านในกว้างขวาง นอนแช่อ่างดูดาวดาวเพลิน ๆ ยิ่งถ้าไปช่วงหน้าหนาว บรรยากาศดีได้ฟีลเหมือนอยู่เมืองนอกยังไงยังงั้นเลย หรือไปช่วงหน้าฝน ก็ให้ความโรแมนติกไปอีกแบบ 

2. Morning Star Glamping เฟส 1 (บ้านแม่ลาย จ.เชียงใหม่) 

morning star phase 1


บ้านกระจกใสกลางป่า ที่มาแล้วจะรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ฟินแลนด์ สไตล์การตกแต่งแบบอบอุ่น เน้นความเรียบง่าย เสมือนเป็นบ้านที่เราอาศัยอยู่จริง มีลำธารหน้าบ้าน หรือจะเลือกนอนแช่น้ำอุ่นในอ่างชมวิวเพลิน ๆ ก็ฟีลดีทั้งคู่ มีทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ติดแอร์เย็นฉ่ำ ไม่ต้องกังวลแม้จะมาในช่วงที่แดดเปรี้ยง 

3. Morning Star Glamping เฟส 2  (บ้านแม่ลาย จ.เชียงใหม่) 

morning star phase 2


ต่อด้วย พูลวิลล่า ริมลำธาร เฟส 2 บ้านกระจกใสทรงเอที่ให้ฟีลเมืองนอกสุด ๆ มีห้องนอนและน้องนั่งเล่นแยกกันภายในบ้านมีห้องน้ำ 2 ห้อง สามารถเข้าพักได้ 2-4 คน มีทั้งอ่างในห้องและสระน้ำอุ่น outdoor แช่น้ำอุ่น ดูดาว รับลมหนาวริมลำธาร ถ้าจะบรรยากาศดีขนาดนี้ ต้องไปให้ได้สักครั้งแล้วล่ะ 

4. หลงเขาแคมป์ ภูทับเบิก (ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์) 

Business

ปัญหาระบบไฟฟ้าอะไรบ้างที่พบได้บ่อยในโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมบอกแนวทางแก้ไข

post-image

อีกปัญหาหนึ่งที่โรงงานอุตสาหกรรมมักจะพบกันบ่อยคือ ระบบไฟฟ้า ทั้งในเรื่องของ ไฟตก ไฟเกิน ไฟกระโชก รวมไปถึงสัญญาณรบกวน ส่งผลกระทบต่อระบบเครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์ในโรงงาน ที่มักมีความไวต่อความผิดปกติของกระแสไฟฟ้าได้สูงมาก ซึ่งความรุนแรงนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่กระทบเพียงเล็กน้อยโดยไม่ส่งผลใด ๆ จนถึงสร้างความเสียหายต่อกระบวนการผลิต ส่งผลต่อระบบธุรกิจ และ การชำรุดเสียหายของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในโรงงาน หรืออาจรุนแรงจนก่อให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน 

เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว จึงต้องมีการติดตั้ง Surge Protection หรือ ระบบกันไฟกระชาก โดยสามารถเรียกได้หลายชื่อ Surge Protection Device (SPD),Surge Suppression Equipment (SSE) หรือ Transient Votage Surge Suppressor (TVSS)

ไฟตก (Voltage dip) 

ไฟตก คือ การที่แรงดันไฟฟ้าลดต่ำลงจากปกติ ส่งผลให้ไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้เพียงพอ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น และเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งสังเกตได้จากไฟฟ้ามีอาการติด ๆ ดับ ๆ โดยสาเหตุไฟตกเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น 

  • มีการใช้ไฟจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์หมุนรอบสูง 
  • สภาพอากาศ เช่น ฝนตกหนัก มีพายุ 
  • กระแสไฟฟ้าไหลลงดิน 
  • ตัวนำไฟฟ้าภายในโรงงานมีปัญหา เข่น ชำรุด หรือ ไฟช็อต 

ทำให้แรงดันไฟฟ้าในสายส่งของการไฟฟ้าลดต่ำลง ส่งผลให้การทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หยุดชะงักในการทำงาน และอาจเกิดความเสียหายได้ และหากเกิดขึ้นบ่อย ๆ จะทำทำให้ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้าลดลงและเสื่อมเร็วขึ้น โดยเฉพาะ มอเตอร์ของอุปกรณ์ไฟฟ้า 

วิธีการแก้ปัญหาระบบไฟฟ้าตก: ติดตั้งอุปกรณ์กันไฟตก Voltage Protection หรือ ติดตั้งเครื่องรักษาระดับแรงดัน Automatic Voltage Stabilizer เพื่อช่วยในการคอยปรับแรงดันไฟฟ้าให้มีความสม่ำเสมอ ป้องกันความเสียหายเครื่องไฟฟ้าภายในโรงงาน โดยข้อดีของการใช้เครื่องสเตบิไบเซอร์ คือหมดปัญหาเรื่องไฟตก และยังมีประสิทธิภาพสูง สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องมีคนคอยเฝ้าเปิด –  ปิด เครื่อง 

ไฟดับ (power outage) 

ไฟดับ คือ การที่กระแสไฟฟ้าหยุดไหล ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้เพียงเฉพาะจุดหรืออาจเกิดเป็นวงกว้าง โดยสาเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากไฟฟ้าลัดวงจรในสายส่งกระแสไฟการไฟฟ้าฯ หรือเกิดปัญหากับสายส่งการไฟฟ้าฯ…

Read More
Health Politics

เมื่อรัฐบาลอาจต่อโควตานำเข้าขยะเศษพลาสติก ส่งผลต่อชีวิตคนไทยอย่างไร?

post-image

การนำเข้าขยะรีไซเคิลของรัฐบาล ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตคนไทยอย่างไร และจะมีกลุ่มคนมากน้อยแค่ไหนที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างจริงจัง? 

(more…)
Read More
Blog Lifestyle Travel

ตกเครื่อง ทำไงดี เรามีวิธีมาบอก

post-image

สายชีพจรลงเท้าคนไหนเคยมีประสบการณ์ “ตกเครื่อง” บ้าง? แล้วทำอย่างไรในการแก้ไขสถานการณ์กันบ้างคะ 

(more…)
Read More
Business Lifestyle

เมื่อ เมกะทรอน ในโลกภาพยนต์ สู่ เมกะเทรนด์ ในโลกความเป็นจริง

post-image

หุ่นยนต์ขายกาแฟ หรือ ตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ ที่สร้างปรากฏการณ์ในกลุ่มคนเมือง จนต้องเข้าแถวยาวเหยียด เพื่อรอใช้บริการนวัตกรรมใหม่ ที่ทำหน้าที่ได้ใกล้เคียงกับคนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นแคชเชียร์อัตโนมัติ ตู้เก็บค่าที่จอดรถในห้างสรรพสินค้า ที่เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว สามารถทำงานได้ดีไม่ต่างไปจากการทำงานของพนักงานที่เป็นมนุษย์ หรือแม้แต่การกำจัดขยะที่เป็นตัวช่วยทุ่นแรงงานคนไปได้อย่างมากและสามารถทำได้เองที่บ้าน

ระบบอัตโนมัติ ที่มีการทำงานของระบบจาก AI กำลังจะมีอิทธิพลในหลายๆด้านของโลกเข้าไปทุกที แต่ถึงแม้ว่าการนำ AI มาใช้งาน จะไม่ใช่เรื่องใหม่แล้วในปัจจุบัน แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นและจะมีผลอย่างไรต่อโลกของเราในอนาคต หากผู้บริโภคยอมรับและมีการตอบสนองในการใช้งานระบบหุ่นยนต์มากกว่าระบบแมนนวลอย่างแรงงานคน? 

เมื่อกระแสอัตโนมัติหรือระบบกลไกต่าง ๆ ที่มีการพัฒนาประสิทธิภาพควบคู่ไปกับเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของคนยุคดิจิทัล มีแนวโน้มที่กำลังจะครองอิทธิพลในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สังคมอย่างการสื่อสารทางโลกออนไลน์ หรือทางการแพทย์ และด้านสุขภาพ เช่น การใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงระหว่างคนสู่คนในช่วงสถานการณ์โรคระบาด จึงปฏิเสธได้ยากว่า ระบบอัตโนมัติ จะมีส่วนที่เชื่อมโยงกับชีวิตของมนุษย์มากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้    

สัญญาณที่กำลังจะบ่งบอกว่า Mega Trends จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งน่าจับตามองโดยเฉพาะในด้านธุรกิจ ตั้งแต่ช่วงปี 2022 – 2025 โดยเทรนด์หลักที่จะส่งผลต่อทิศทางธุรกิจ ที่อาจมีโอกาสได้เห็นภายในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งไม่น่าเกิน ปี 2025 ที่ผู้ประกอบการและนักธุรกิจทั้งหลายควรเตรียมตัวที่จะเรียนรู้ เพื่อความพร้อมในการรับมือ สำหรับพลิกโอกาสให้เป็นผู้นำเทรนด์ทางการตลาด ไม่ถูกสลัดตกหลังม้า หรือปล่อยให้คู่แข่งแซงหน้าเพราะตามเทรนด์ไม่ทัน เทคโนโลยีเมกะเทรนด์สุดล้ำที่น่าจับตามอง และไม่ควรพลาดการติดตามข่าวสาร ได้แก่

1.Automation

ระบบอัตโนมัติ หรือ Automation คือ ระบบควบคุมที่สามารถทำงานได้เอง โดยผ่านการวางโปรแกรมไว้ เพื่อช่วยในการสั่งงาน รับงาน กำหนดงานต่างๆ ให้เป็นไปตามระบบอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด หากกล่าวง่ายๆก็คือ การนำเครื่องจักรหรือเทคโนโลยีมาทำงานแทนคนนั่นเอง 

Oxford, McKinsey รวมไปถึงบริษัทอื่นๆ ได้มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2025 อาจเป็นยุคของเทรนด์ AI (Artificial Intelligence) ที่ผสมผสานกับการทำงานของมนุษย์ เรียกว่า “hybrid AI” และมีแนวโน้มว่าในบางสายงานอาจถูกแทนที่ด้วยระบบ AI ทั้งหมด อาจทำให้สายงานบางอาชีพ และงานกว่าหลายล้านตำแหน่งหายไปภายในปี 2030 แต่ก็อาจมีอาชีพใหม่ๆสำหรับมนุษย์เกิดขึ้นเช่นกัน