ใครที่กำลังเครียดเพราะถูกเชิญไปงานแต่อยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งของญาติ งานแต่งเพื่อนสนิท งานแต่งเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่งานแต่งเจ้านาย เพราะไม่รู้ว่าจะใส่ซองงานแต่งเท่าไรจึงเหมาะกับฐานะเจ้าของงาน จะใส่มากแต่รายได้ตนเองก็แทบชักหน้าไม่ถึงหลัง หากใส่เงินน้อยก็ห่วงจะมีดรามาตามมา กลัวเพื่อนเลิกคบ โดนนินทา เป็นที่เม้าท์มอยสารพัด อันเป็นผลพวงมาจากจำนวนเงินใส่ซองงานแต่ง คิดแล้วทำให้อยากรู้ว่าใครกันนะเป็นผู้บัญญัติประเพณีการใส่ซองงานแต่งนี้ขึ้นมา ทำไมต้องมีการใส่ซองงานแต่ง ทำไมสังคมต้องตัดสินให้คนใส่เงินในซองน้อยกลายเป็นคนผิด และใส่ซองงานแต่งยังไงจึงจะเหมาะสม โดยไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อนในภายหลัง

ใส่ซองตามกำลังทรัพย์ที่มี โดยยึดรายได้ของตัวเองเป็นหลัก
เมื่อได้รับเชิญงานแต่งที่ต้องมีการใส่ซอง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในอันดับแรกเมื่อจะทำการใส่ซอง คือ คำนึงถึงรายได้ของตนเองก่อน สำหรับใครที่มีทักษะบริหารการเงิน จะมีการแบ่งเงินในส่วนของกิจกรรมต่าง ๆ อย่างชัดเจน อาจมีการแพลนค่าไปร่วมงานต่าง ๆ ไว้ เช่น ยอดเงินที่จะใส่ซองร่วมงานต่าง ๆ เพื่อไม่เป็นการสร้างความลำบากให้ตนเองในภายหลัง เคยเจอคำถามว่าใส่ซองงานแต่ง 400 ได้ไหม เพราะว่างงาน หรือมีรายได้น้อย ก็ได้มีผู้แนะนำว่าการใส่ซองงานแต่งที่ดีต่อทั้งตนเองและเจ้าภาพ คือ ไม่ควรใส่ซองเกิน 5% ของรายได้ เช่น เงินเดือน 20,000 บาท ไม่ควรใส่เงินเกิน 1,000 บาท แต่จะใส่เท่าไรในระหว่างจำนวนนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ที่นำมาประกอบในการตัดสินใจต่อไป

ใส่ตามระดับความสนิทกับเจ้าภาพ
ปัจจัยหลัก ๆ ของจำนวนเงินที่ใส่ซองงานแต่งมักจะขึ้นอยู่กับความสนิทต่อเจ้าภาพเป็นส่วนใหญ่ หากเป็นการใส่ซองงานแต่งเพื่อนสนิท หรือ ญาติพี่น้อง อาจใส่จำนวนเงินมากกว่างานแต่งของคนที่รู้จักเพียงผิวเผิน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเงินในซองถือเป็นสินน้ำใจแสดงความยินดี และช่วยเป็นทุนสนับสนุนในการสร้างครอบครัวใหม่ของคนที่เรารักหรือมีความใกล้ชิดสนิทสนม ยิ่งสนิทมาก รักมาก ยิ่งต้องแสดงความรักและซัพพอร์ทเต็มที่ อาจใส่ซองงานแต่ง 4000 หรือ น้อยกว่า – มากกว่า เท่าที่กำลังทรัพย์เราไหว ส่วนเจ้าภาพที่ไม่ได้สนิทเท่าไร อาจเป็นเพียงคนรู้จัก เพื่อนร่วมงาน อาจใส่น้อยกว่า 1000 บาท ตราบใดที่ไม่เกิน 5% ของรายได้ที่เรามี

ไปร่วมงานแต่งด้วยหรือไม่
กรณีใส่ซองงานแต่งไม่ได้ไปร่วมงาน ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม หากจำนวนใส่ซองจะน้อยกว่าปกติสักเล็กน้อยก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดอะไร แต่ถ้าเป็นงานของคนสนิท ญาติมิตร ไม่ควรลดจำนวนเงินใส่ซองให้น้อยลง แต่ควรใส่ซองตามจำนวนปกติหรืออาจมากกว่าเดิม

อายุและหน้าที่การงาน
หากเรามีอายุหรือหน้าที่การงานน้อยกว่าเจ้าบ่าว-เจ้าสาว จำนวนเงินที่ใส่ซองงานแต่งน้อยหน่อย ไม่แย่หรือผิดแปลกอะไร แต่ถ้าหากเจ้าภาพมีอายุไล่เลี่ยหรือน้อยกว่า หรือตำแหน่งหน้าที่การงานเราสูงกว่า ควรใส่ซองให้มากขึ้นแม้จะไม่สนิทก็ตาม หรือต่อให้เป็นงานแต่งของคู่ค้าทางธุรกิจ การใส่ซองในจำนวนเงินที่มากพอและเหมาะสม เป็นการรักษามารยาทและยังช่วยสานสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอีกด้วย

ความพึงพอใจ สถานที่ และรูปแบบการจัดงาน
รูปแบบและสถานที่จัดงานก็มีส่วนสำคัญในการนำมาใช้พิจารณาการใส่ซอง รวมไปถึงความพึงพอใจที่เรามีต่องานเลี้ยงที่จัดขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะสิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงค่าใช้จ่ายของเจ้าภาพ เช่น จัดงานที่โรงแรมขนาดใหญ่ ระดับ 4-5 ดาว เสิร์ฟอาหารแบบโต๊ะจีน ย่อมมีค่าใช้จ่ายสูง หรือต่อให้ไปถึงงานช้าแค่ไหนก็ยังคงมีอาหารรองรับ รสชาติอาหารอร่อย การบริการ และการต้อนรับ สร้างความประทับได้เป็นอย่างดี แบบนี้ก็น่าใส่ซองจำนวนมากสักหน่อย เพื่อเป็นการสนับสนุนให้คุ้มค่ากับที่เจ้าภาพใส่ใจต้อนรับและดูแลผู้มาร่วมงานเป็นอย่างดี

ให้ของขวัญแทนการใส่ซอง
เป็นอีกไอเดียในการไปร่วมงานแต่ง กรณีที่ไม่มีซองเพราะอาจถูกเชิญด้วยการบอกกล่าว หรือรู้ความชื่นชอบส่วนตัวเป็นพิเศษของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งอาจเจ้าบ่าวหรือฝั่งเจ้าสาว จึงต้องการให้เป็นของขวัญแทนการใส่ซอง เพื่อให้ผู้รับประทับใจหรือได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ หรือบางคนตัดสินใจไม่ได้จริง ๆ ว่าจะใส่ซองงานแต่งเท่าไรดี การเลือกซื้อของขวัญให้แทนการใส่ซองก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ควรเลือกสิ่งของที่ผู้รับสามารถนำไปใช้ได้จริง เช่น เครื่องใช้ในครัวเรือน ของตกแต่งบ้านเก๋ ๆ เป็นต้น และควรเป็นของที่มีราคาตามกำลังซื้อของเราด้วย

ใส่ซองตามจำนวนคนที่ไปด้วยกันกับเรา
หากปกติเราใส่ซองไปตามมาตรฐานเดิม แต่ถ้ามีคนอื่นไปงานด้วยกันกับเรา เช่น อาจไปกับแฟน ไปกับครอบครัว ควรเพิ่มจำนวนเงินใส่ซองงานแต่งให้มากขึ้น โดยนับตามจำนวนคนที่ไปด้วยกัน อาจคูณด้วย 1.5 – 2 เท่า