ใครเป็นบ้าง รู้ทุกอย่างแต่ไม่พูด เพราะเมื่อเติบโต ประสบการณ์ระหว่างทางมันสอนให้รู้ว่า บางเรื่อง แม้จะรู้แต่ก็ไม่จำเป็นต้องพูด บางเรื่องพูดหรือไม่พูดก็ค่าเท่ากัน จึงไม่จำเป็นพูดให้เหนื่อย และหลาย ๆ เรื่อง ไม่พูดเพราะปล่อยให้คนไม่รู้จริงแสดงละครให้ดูก็สนุกดีเหมือนกัน
ด้วยผู้คนและเรื่องราวมากมายที่เก็บเกี่ยวแบบเต็มใจและไม่เต็มใจ เป็นบทเรียนให้รู้ว่าต้องฟังให้มากกว่าพูด จนเปลี่ยนจากคนพูดเยอะกลายเป็นคนพูดเท่าที่จำเป็น เพราะเมื่อไรที่เราเงียบ เราจะไม่เป็นที่สนใจ และมองเห็นอะไรได้มากขึ้น รวมถึงคนที่พยายามทำตัวให้เป็นจุดสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการอวดฉลาด หรือ การทำตัวเรืองแสงก็ตาม
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบให้ถูกมองว่าเป็นคนโง่ในสายตาคนอื่น แต่สำหรับบางคนที่แกล้งโง่และพูดให้น้อยลงก็ได้พบว่า การแกล้งโง่มีข้อดีที่เยี่ยมยอดกว่าที่คิด
แกล้งโง่ ทำให้มีเวลามากขึ้น
เรามักจะพบได้ในทุกที่ คน (อวด) ฉลาดมักทำงานมากกว่า ไม่เพียงแต่งานของตน แต่ยังอาจรวมไปถึงงานของคนอื่น ทำให้มีงานต้องทำจนเหลือเวลาส่วนตัวน้อยลง ในขณะที่คนถูกมองว่าโง่ ทำอะไรไม่เป็น จะได้ทำแต่หน้าที่ของตน ไม่ต้องไปเกี่ยวข้องกับงานของคนอื่น ทำให้มีเวลาที่จะวางแผนทำในเรื่องที่จำเป็นมากกว่า
แกล้งโง่ ทำให้สบายขึ้น
การแกล้งโง่หรือไม่บ่งบอกว่าตนเองมีความสามารถ ทำให้ไม่ต้องรับผิดชอบในงานใดงานหนึ่งแบบเหมารวม เช่น ผู้หญิงที่ทำอาหารเก่ง เก่งการบ้านการเรือน เมื่อแต่งงานก็จะถูกให้เหมาหน้าที่ดูแลงานครัว งานบ้าน แม้ว่าจะเป็นครอบครัวที่ออกไปทำงานนอกบ้านทั้งคู่ก็ตาม
แกล้งโง่ ทำให้ฉลาดขึ้น
คนอวดฉลาดที่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว คิดว่าตนเองรอบรู้ทุกเรื่อง สิ่งที่ตนรู้นั้นถูกต้องและเพียงพอแล้ว และกลัวถูกมองว่าตนไม่เก่งจริง จึงไม่คิดจะถามใคร หรือใครแนะนำอะไรก็ไม่รับ เพราะน้ำในแก้วนั้นเต็มจนไม่สามารถเติมน้ำลงไปได้อีกแล้ว ในขณะที่คนแกล้งโง่ที่ทำตัวเป็นแก้วพร่องน้ำ จะกล้าถามเพื่อหาคำตอบ หรือเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ทำให้คนแกล้งโง่สามารถขจัดปัญหาได้อย่างชาญฉลาด เพราะได้คำตอบและข้อมูลที่ถูกต้อง และยังได้ความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มเติม แต่คนอวดฉลาดก็ยังคงไม่รู้ หรือมีความรู้อยู่เท่าเดิม เสมือนเป็นการผูกความโง่ไว้กับตัวเอง
แกล้งโง่ ทำให้พัฒนาตนเองได้มากขึ้น
คนอวดฉลาดจะหลงลำพองกับความเก่งของตนเอง คิดว่าตนเองนั้นฉลาดรอบรู้ ไม่จำเป็นต้องหาความรู้ หรือฟังอะไรจากใครอีกแล้ว ทำให้ไม่มีการพัฒนาความสามารถของตน เปรียบเหมือนอึ่งอ่างพองตัวอยู่ในกะลา ที่ไม่สามารถเคลื่อนขยับไปไหนได้อีก แต่คนแกล้งโง่ที่ทำตัวเล็ก สามารถขยับเคลื่อนที่ไปไหนได้ตลอดเวลา
แกล้งโง่ ทำให้ได้เรียนรู้และมีประสบการณ์มากขึ้น
คนอวดฉลาดมักที่จะเลือกทำในสิ่งที่ตนคิดว่าฉลาด โดยจะไม่ยอมเสี่ยงไปทำอะไรที่นอกเหนือกรอบความฉลาดของตน เพราะกลัวความผิดพลาดจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ความฉลาดของตน ทำให้ไม่ได้เรียนรู้ถึงความผิดพลาด การแก้ไขปัญหา และพลาดโอกาสที่จะได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย ในขณะที่คนแกล้งโง่จะกล้าเสี่ยงและทดลองมากกว่า ยอมเสียเวลาที่จะฟังคนอื่นเสนอไอเดีย เผื่อได้ข้อมูลหรือความคิดดี ๆ มาปรับใช้ ยอมที่จะเสียงตกขบวนรถหรือเครื่องบินจากการเที่ยวแบบไม่วางแผน หรือยอมที่จะเสี่ยงทำธุรกิจของตนเองเพื่อให้มีเปอร์เซ็นต์ของคำว่าเป็นไปได้ เพื่อจะได้ไม่ปล่อยให้ โอกาส กลายเป็น เพียงอากาศ ที่หลุดลอยไป หรือได้รู้จักกับความล้มเหลว เพื่อจะได้รู้วิธีรับมือ และสามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในครั้งต่อไป ทำให้มีประสบการณ์และสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งขึ้น
แกล้งโง่ ทำให้ได้รู้ข้อมูลมากขึ้น
ในข้อนี้ยกตัวอย่างพวกหนังนักสืบที่ต้องปลอมตัวไปสืบหาข้อมูล เนื้อเรื่องมักจะสร้างให้ตัวละครที่ปลอมตัวซื่อ ๆ เซ่อ ๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราว ทำให้คนรอบข้างตายใจและเชื่อว่าคนโง่ ๆ คงไม่มีพิษมีภัยอะไร จึงไม่ค่อยระแวดระวังภัย มีอะไรก็บอกเล่า เพราะคนแกล้งโง่มักจะมีคุณสมบัติของผู้ฟังที่ดี ทำให้คนส่วนใหญ่มักจะเปิดปากพูดกับคนแกล้งโง่มากกว่าคนที่อวดฉลาดอยู่ตลอดเวลา
